Vivienne Westwood #SS18

ในหน้าประวัติศาสตร์จากอดีต ความคิดเรื่องเรืออับปางนั้นถูกนำมาตีความให้ดูโรแมนติกกว่าที่เป็นจริง ทั้งยังถูกนำมาอ้างอิงผ่านผลงานศิลปะคลาสสิค เรื่อยไปจนถึงในงานสร้างสรรค์แบบอื่น ๆ อีกมากมาย โดยในหลายชิ้นงานมักจะกล่าวถึงเหตุการณ์เรืออับปางในทะเลผ่านภาพของหญิงสาวผู้เลอโฉมในท่วงท่าที่แลดูเย้ายวนด้วยเสื้อผ้าที่เปียกโชกนั่งอยู่ริมหาดทรายบนเกาะร้างกลางทะเล

นั่นคือสิ่งที่หลายคนเห็นจนชินตา ทว่าสำหรับคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ประจำปี 2018 นี้ Vivienne Westwood Anglomania เลือกนำภาพของเรือที่อับปางในแบบที่เป็นจริงเป็นจังขึ้น มาใช้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ โดยโฟกัสไปที่การก่อให้เกิดมลภาวะและความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผืนมหาสมุทรของเรือที่อับปาง

 

 

ลายพิมพ์หลักในคอลเลคชั่นนี้คือลายพิมพ์ Grateful Print ที่เป็นการนำเอาลายพิมพ์บนถุงช้อปปิ้งพลาสติกที่เห็นได้ริมชายหาดในประเทศไทยมาตีความให้น่าสนใจยิ่งขึ้น ลายพิมพ์ดอกกุหลาบที่มีคำว่า “thank you” พิมพ์อยู่อย่างสื่อความหมายกึ่งประชดประชันเล็ก ๆ ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องบนเสื้อยืดผ้าฝ้ายและผ้าซาติน ให้ภาพลักษณ์ที่สื่อไปถึงกระเป๋าเดินทางและเศษชิ้นส่วนพลาสติกที่กระจัดกระจายอยู่กลางทะเล

 

 

ลายพิมพ์เดียวกันในสีดำยังถูกนำมาใช้ทั้งบนเสื้อ Hope Gypsy Blouse สไตล์คอร์เซ็ททรงไม่สมมาตร กระโปรง Golden Skirt มีระบาย และเชิ้ตเดรส Gabelle ตัวหลวมสวมใส่สบาย สะท้อนภาพความลื่นไหลเป็นมันของน้ำมันที่รั่วไหลอยู่กลางทะเล นอกจากนี้ ลายพิมพ์นี้ยังถูกนำมาใช้บนเสื้อยืดผ้าเจอร์ซีย์ลายทางแบบกะลาสี ที่อ้างอิงไปถึงดาวค้างฟ้าชาวฝรั่งเศสอย่าง “บริเจ็ต บาร์โดต์” ที่มักถ่ายทอดภาพลักษณ์ความเซ็กซี่ของหญิงสาวผู้เย้ายวนบนเรือที่อับปาง รวมถึงบนชุดนอนผ้าเจอร์ซีย์ลายทางที่ให้ความรู้สึกเหมือนคุณต้องเผชิญกับเหตุการณ์หายนะตลอดทั้งคืน

 

 

ลายพิมพ์หลักอีกหนึ่งลายในคอลเลคชั่นนี้ก็คือลายตาราง Cold Dye Check ซึ่งถูกนำมาใช้บนชุดสูทผ้า คาลิโก เผยให้เห็นภาพของแสงอาทิตย์จัดจ้าและเศษซากของเรืออับปางที่ลอยมาติดอยู่ริมหาด และเช่นเดียวกันกับคอลเลคชั่นก่อน ๆ ของวิเวียน เวสต์วู้ดที่นำเสนอผลงานแฟชั่นแบบอนุรักษ์ในแนวทางแห่งความยั่งยืน คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน ประจำปี 2018 ของ Vivienne Westwood Anglomania เลือกใช้ผ้าเจอร์ซีย์และผ้าใยกัญชงออร์แกนิกเป็นวัสดุหลักในการตัดเย็บ

 

 

ระบบฟาร์มเพาะเลี้ยงต้นฝ้ายออร์แกนิกคือระบบฟาร์มแบบเดียวเท่านั้นที่ผลิตผ้าฝ้ายขึ้นอย่างปลอดสารเคมีฆ่าแมลงตลอดกระบวนการ ช่วยให้ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของสารเคมีตกค้างที่จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้สวมใส่และสิ่งแวดล้อมโดยรวม

 

 

ส่วนผ้าใยกัญชงที่ใช้ในคอลเลคชั่นใช้เส้นใยกัญชงซึ่งถือว่าเป็นเส้นใยธรรมชาติที่มีความแข็งแรงที่สุดในโลก และแข็งแรงกว่าผ้าฝ้ายถึง 3 เท่า จึงให้ความทนทานในการนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าได้อย่างที่หาได้ยากในผ้าชนิดอื่น ในการทำฟาร์มปลูกต้นกัญชงนั้นไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมาก และไม่ต้องใช้สารเคมีเพื่อกำจัดแมลงหรือเพื่อเป็นปุ๋ยบำรุงต้น นอกจากนี้ ในกระบวนการผลิตต้นกัญชงยังไม่มีอะไรเหลือใช้โดยเปล่าประโยชน์ เพราะเมล็ดสามารถนำมาผลิตเป็นน้ำมันและอาหารเสริม ส่วนลำต้นก็สามารถนำมาผลิตเป็นเส้นใยที่ใช้ทอผ้าได้

 

---

Vivienne Westwood Anglomania

• ชั้น 1 เซ็นทรัลเอ็มบาสซี
• ชั้น 1 เซ็น ดีพาร์ทเมนท์สโตร์