When gentleman go to barber

การแวะเวียนไป Barber ของเหล่าสุภาพบุรุษทั้งหลายน่าจะเรียกได้ว่าเป็นกิจวัตรประจำเดือนกันเลยก็ว่าได้เพราะถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ชอบสไตล์ของทรงผมและทรงหนวดในแบบ Vintage เรียบ ๆ เนี๊ยบ ๆ แล้วล่ะก็คงพลาดไม่ได้ที่พอเห็นทรงผมยาวเกินจะเป็นทรงที่ต้องการมาหน่อยก็ต้องรีบวกกลับไปหาช่างคู่ใจให้จัดการเก็บความเรียบร้อยให้กับคุณกันแล้ว

  

แต่หลังจากที่คุณได้ได้อ่านกฎทั้ง 8 ข้อของการเข้า Barber ในวันนี้จากเราไปเรียบร้อยแล้วนั้นก็บอกได้เลยว่าการไปตัดผมของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะ Barber มีเสน่ห์ที่น่าสนใจและมีรายละเอียดที่รอ Gentleman อย่างคุณเข้าไปค้นหาอยู่อีกไม่น้อยเลยทีเดียว

 

1. Gentleman ต้อง On Time

หนุ่ม ๆ ฟังทางนี้ให้ดีถ้าคุณนัดช่างตัดผมที่ Barber เรียบร้อยแล้วการไปตรงเวลาคือเรื่องสำคัญเพื่อที่คุณเองจะได้รับการบริการอย่างเต็มที่และละเอียดในทุกขั้นตอนและยิ่งในเคสที่ทางร้านมีนัดต่อด้วยแล้วล่ะก็คิวของคุณอาจจะถูกยกเลิกหรือไม่ทรงผมของคุณก็อาจจะเป็นความรีบเร่งของช่างแทนก็เป็นได้

แต่ถ้ามีความจำเป็นและรู้แน่ๆ แล้วว่าอาจจะช้าไปสักกี่นาทีก็ลองโทรไปแจ้งทางร้านเอาไว้ก่อนน่าจะเป็นเรื่องที่ดีและทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับช่างไม่รู้สึกอึดอัดระหว่างกันและแน่นอนว่าผลลัพธ์ก็คือทรงผมที่ได้ใจคุณนั่นเอง

 

2. ไปถึงร้านพร้อมกับผมที่สะอาด

Barber จะไม่สระผมให้คุณก่อนที่จะลงมือตัดและดังนั้นถ้าคุณไม่อยากที่จะอยู่กับทรงผมสุดเนี๊ยบแต่ดันรู้สึกคันแปลกๆเพราะไม่ได้สระผมมาแล้วล่ะก็คุณน่าจะต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนไป Barber ให้เรียบร้อยด้วยการสระผมล้างหน้าไปให้สะอาดหวีผมให้เรียบอย่าปล่อยเซอร์ยุ่งเหยิงเพราะมันจะทำให้ความแม่นยำในการตัดผมของคุณลดลงได้ถ้าจะให้แนะนำแบบง่าย ๆ คุณอาจจะอาบน้ำเสร็จแล้วก็พุ่งตรงไปที่ Barber ทันทีน่าจะเป็นวิธีที่ทำให้เส้นผมของคุณสะอาดพร้อมตัดมากที่สุด

 

3. บอกช่างไปเลยว่าคุณต้องการทรงแบบไหน

Save รูปมาให้เรียบร้อยพอทุกอย่างเข้าที่ก็จัดการยื่นให้ช่างของคุณดูกันได้เลยจากนั้นก็ถึงขั้นตอนการตกลงตามลักษณะเส้นผมของคุณกันแล้วว่ามันเหมาะกับทรงที่เลือกมาขนาดไหนปรับแต่งตรงไหนบ้างหรือไม่เพื่อให้ทุกอย่างออกมา Perfect กับที่คุณคิดเอาไว้มากที่สุดนั่นเอง

 

4. ปล่อยให้ช่างเป็นคนเก็บรายละเอียดให้คุณเอง

แม้ว่าคุณจะมีแบบในใจและมีรูปมาประกอบให้ชัดเจนขึ้นแล้วแต่หลังจากที่ตกลงกันเสร็จคุณไม่ต้องกังวลและปล่อยตัวให้สบายได้เลยปล่อยให้ช่างของคุณใช้เทคนิคและประสบการณ์ของเขาอย่างเต็มที่เพื่อที่จะได้ไม่เป็นการปิดกั้นและกดดันเขามากเกินไปเพราะช่างใน Barber แทบทุกคนจะมีประสบการณ์ล้นมือกันอยู่แล้วถ้าคุณได้แจ้งความต้องการไปตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่ยากที่พวกเขาจะทำตามที่คุณต้องการโดยที่คุณไม่ต้องคอยบอกเขาทุกจุดเพราะนั่นอาจจะเป็นเทคนิคส่วนตัวของเขานั่นเอง

   

5. อย่าเร่ง

คุณอาจจะเคยผ่านช่วงเวลาในการตัดผมเมื่อก่อนที่ไม่ถึง 15 นาทีคุณก็เปลี่ยนไปแล้วแต่สำหรับ Barber แล้วคุณต้องลบภาพเหล่านั้นออกให้หมดและในข้อนี้ก็สอดคล้องกับในข้อแรกว่าทำไมคุณถึงต้องมาถึงร้านให้ตรงเวลานั่นก็เป็นเพราะการตัดผมที่ Barber จะค่อนข้างใช้เวลานานประมาณ 1-2 ชั่วโมงหรืออาจจะมากกว่านั้นแล้วแต่ที่ช่างตัดผมจะรู้ความเร็วของตัวเองแล้วพวกเขาก็จะทำการนัดคิวต่อไปตามนั้นเช่นเดียวกัน

เอาล่ะ…ด้วยความละเอียดละเมียดละไมของ Barber นี่แหละทำให้เราอยากให้คุณรู้กฎข้อนี้และเป็นข้อที่อยากให้คุณทำได้มากที่สุดนั่นก็คืออย่าเร่งให้ช่างรีบตัดให้เสร็จเพราะผมแต่ละประเภทหรือแต่ละทรงมักจะต้องใช้เวลาและความละเอียดในการตัดเป็นอย่างมากและยิ่งถ้าด้วยสไตล์ร้านของ Barber ด้วยแล้วคุณไม่ควรเข้าเลยถ้ารีบมากเพราะการตัดผมมันคือศิลปะของอาชีพพวกเขา ทรงผมแต่ละทรงในแต่ละครั้งคือผลงานของเขา ดังนั้นพวกเขาจะไม่เร่งจนทำให้งานของเขาเสียหายไม่ได้คุณภาพอย่างแน่นอน และการไปตัดผมที่ Barber ของคุณก็เปรียบเหมือนการไปหางานศิลปะใส่ตัวด้วยเช่นกัน

 

6. นิ่งเข้าไว้เหล่า Gentleman

 ก่อนจะตัดผมคุณควรเลือกท่านั่งที่สบายที่สุดของคุณเอาไว้เพื่อที่ตลอดการตัดผมคุณจะได้ไม่ต้องขยับย้ายไปมามากนักเพราะว่าการขยับของคุณมันมีผลกับการตัดของช่างอย่างแน่นอนเพราะบางทีมันอาจจะเป็นจังหวะที่เขาเล็งเห็นถึงจุดที่ยังไม่เรียบร้อยแต่พอคุณขยับแล้วเขาก็ต้องมามองหาจุดนั้นอีกรอบแน่นอนว่ามันทำให้ทุกอย่างช้าลงและถ้าโชคร้ายกว่านั้นหน่อยเขาอาจจะมองหาจุดนั้นไม่เจอแล้วเพราะการเคลื่อนไหวของคุณนั่นเองและถ้าเกิดคุณต้องตอบคำถามช่างแล้วล่ะก็ขอแนะนำให้คุณเลือกที่จะพูดแทนการพยักหน้าหรือส่ายหน้าเพราะนั่นยิ่งจะทำให้เขาเสียหลักไปกันใหญ่เลยทีเดียวเอาเป็นว่ายิ่งคุณช่วยเขาได้มากเท่าไรคุณก็จะยิ่งได้ทรงผมที่เป็นดังใจมากขึ้นเท่านั้นนั่นเอง

 

7. เปลี่ยนจากจับโทรศัพท์มาคุยกับช่างของคุณกันดีกว่า

แน่นอนว่าถ้าเขาคือคนที่เข้าใจสไตล์การตัดผมของคุณในระดับหนึ่งแล้วเขาก็น่าจะเป็นคนที่พูดคุยกับคุณได้ไม่ยากและน่าจะเป็นภาษาเดียวกันอยู่พอสมควรสิ่งเหล่านี้มันเป็นการลดความเกร็งระหว่างกันในเวลาที่ก็ยาวนานอยู่เหมือนกันและยังอาจมีการแทรกข้อมูลการตัดการดูแลคำแนะนำต่าง ๆ มาอยู่ในช่วงนี้ได้อีกด้วยลองพูดคุยกับเขาเรื่องทั่ว ๆ ไปดูเชื่อว่าช่างตัดผมส่วนใหญ่จะเป็นคนที่คุยสนุกระดับหนึ่งไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้เพื่อนเพิ่มอีกคนก็เป็นได้

 

8. Tip

นี่ไม่ใช่สิ่งที่ระบุไว้อย่างชัดเจนแต่มันเป็นเหมือนมารยาทที่เมื่อเหล่า Gentleman ไปเยือน Barber กันเรียบร้อยแล้วก็มักจะให้ Tip กับทางร้านก่อนออกมานั่นเองซึ่งถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าจำนวนเท่าไรถึงจะเหมาะสมเราอยากขอแนะนำว่าประมาณ 10-15 % จากค่าบริการก็ถือว่าเป็นจำนวนที่กำลังดีเลยทีเดียว

แต่ถ้าคุณถูกใจทรงผมรวมทั้งบริการและถูกคอกับช่างทำผมเป็นพิเศษแล้วล่ะก็จะให้มากกว่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร นั่นคืออีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ทางร้านสามารถประเมินผลงานและความพอใจของลูกค้าได้ชัดเจนมากขึ้นว่าพวกเขาสามารถเรียกตัวเองว่า Barber ได้อย่างเต็มปากแล้วหรือยัง

  

ความเป็น Gentleman มีองค์ประกอบมากมายทั้งที่วัดได้และต้องมาจากข้างในแต่อย่างหนึ่งที่ถ้าคุณจะเรียกตัวเองว่าเป็น Gentleman แล้วนั้นคุณก็ควรมีความใส่ใจในรายละเอียดของตัวคุณเองอยู่และเรื่องของทรงผมและการดูแลก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและแน่นอนว่า Barber เป็นสถานที่ที่เข้าใจเส้นผมของผู้ชายมากที่สุดแต่อีกองค์ประกอบภายในของ Gentleman นั่นก็คือการรู้กฎและมารยาทที่ควรปฏิบัติในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสมนั่นเองซึ่ง MetroSociety ก็หวังว่าเรื่องของ Barber ที่เรายกมาพูดคุยกันวันนี้จะทำให้การเข้า Barber ในครั้งต่อไปของคุณเพิ่มความเป็น Gentleman ให้คุณอย่างเต็มตัวกว่าเดิม