การใช้ น้ำหอม

BY Ghostwriter

  • 29 ธันวาคม 2559
  • 7,227

หลังจากที่เราได้แนะนำวิธี การเลือกซื้อนำ้หอม เบื้องต้นไปในบทความที่แล้ว มาครั้งนี้เราขอลงลึกเกี่ยวกับน้ำหอมให้มากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นโทนกลิ่นซึ่งมีผลของกลิ่นกับชนิดของผิวและตำแหน่งในการฉีดอีกด้วย

 

 

การเลือกกลิ่นน้ำหอมตามสภาพผิว

ต้องขอบอกก่อนว่าการที่น้ำหอมจะแสดงศักยภาพออกมาได้สูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกหลายอย่าง ทั้งสภาพดิน ฟ้า อากาศ รมไปถึงสภาพผิวหนังของผู้ใช้เอง โดยตัวที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะมาตัดสินว่าน้ำหอมชนิดนั้นๆเข้ากับเราหรือไม่ ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับประเภทผิวกาย และระดับของค่าความเป็นกรด ด่าง หรือ ค่า pH ซึ่งค่าความเป็นกรดด่างนี้จะเป็นตัวที่มากระตุ้นให้ส่วนผสมในน้ำหอมแสดงกลิ่นออกมาเป็นแบบไหนนั่นเอง จะเหม็นเปรี้ยว หรือเหม็นเค็มก็ดูกันตรงนี้แหละ

 

 

 

  

 

 

ผิวมันหรือผิวผสม

นับเป็นโชคดี (และโชคร้าย) ของหนุ่มที่มีผิวมันหรือผิวผสมทั้งหลาย เพราะว่าน้ำหอมจะอยู่ติดทนนานเมื่อได้สัมผัสกับน้ำมันบนผิวของเรานั่นเอง โดยจะสังเกตุได้ว่าหนุ่มผิวมันจะมีกลิ่นหอมเซ็กซี่น่าลุ่มหลงมากกว่าหนุ่มผิวแห้ง (เพราะกลิ่นหายเร็ว) แต่ที่บอกว่าโชคร้ายก็คือ โดยส่วนมากแล้วหนุ่มผิวมันจะมีเหงื่อมากกว่าคนปกติ ดังนั้นเมื่อน้ำหอมมาผสมกับกลิ่นตัวแล้ว มันอาจจะกลายเป็นความน่าสะพรึงกลัวโดยคาดไม่ถึงก็เป็นได้ จุดนี้พึงระวังเอาไว้

 

โดยปกติแล้วน้ำหอมเจ้าดังต่าง ๆ มักจะผลิตน้ำหอมที่ออกมาในช่วงฤดูนั้น ๆ หรือจำพวก Summer Collection และ Winter Collection เป็นต้น เคยสงสัยไหมครับว่าเขาผลิตออกมาทำไม? ทั้ง ๆ ที่ในบางครั้งกลิ่นก็ไม่ต่างกันมากสักเท่าไหร่ สาเหตุที่เค้าผลิตออกก็เพราะว่า ในต่างประเทศนั้นช่วงหน้าหนาวจะหนาวมาก ชนิดที่ว่าผิวมันกลายเป็นผิวแห้งเลยทีเดียว น้ำหอมที่มีคำว่า Winter นั้นจึงเหมาะที่จะใช้ในช่วงหน้าหนาวเพราะว่ากลิ่นสามารถติดผิวได้ดีแม้ร่างกายจะผลิตน้ำมันออกมาน้อยก็ตาม ส่วนหน้าร้อนเขาก็จะปรุงน้ำหอมให้มีกลิ่นอ่อนลงเพื่อให้ว่าเวลาเหงื่อออกน้ำหอมจะได้ไม่เข้าไปร่าเริงผสมกับกลิ่นไคลแล้วมีลูกหลานออกมากลิ่นตุ ๆ ซึ่งสำหรับหนุ่มผิวมันแล้ว น้ำหอม summertime ดูว่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวที่สุดครับ

 

นอกจากนี้ยังมีกลิ่นที่ชาวผิวมันควรหลีกเลี่ยงเพราะยิ่งจะไปทำให้เหม็นระหว่างวันนั่นคือน้ำหอมที่มีส่วนผสม หรือมีกลิ่นออกไปในแนว Musk หรือ Earth น้ำหอมกลิ่นเหล่านี้เลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็เอาที่มันผสมน้อยสุดเป็นดี หลายท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วทีนี้จะใช้อะไรดีล่ะเพราะส่วนมากแล้วมันก็กลิ่น Musk ไม่ก็ Earth ทั้งนั้น? ง่าย ๆ ครับ ก็เลี่ยงไปใช้น้ำหอมในแนวกลิ่น Floral หรือ Citrus สิครับ นอกจากให้ความรู้สึกสดชื่นแล้วยังไม่มีกลิ่นเหม็นตอนเหงื่อออกอีกด้วย

  

 

ผิวแห้ง

เป็นสภาพผิวที่ไม่ค่อยจะมีปัญหามากนัก กลิ่นน้ำหอมไม่ค่อยเปลี่ยนจากต้นฉบับ แต่จะเป็นผิวที่ดูซับกลิ่นได้ดีเป็นพิเศษ ในข้อเสียอาจจะใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นเบาบางไม่ดีนักเพราะกลิ่นจะหายไปรวดเร็วกว่าคนผิวมัน แต่ข้อดีคือคุณจะมักเป็นคนที่ฉีดน้ำหอมแล้วไม่ฉุนแม้พลาดฉีดมากจนเกินไป 

 

ด้วยสภาพผิวดังกล่าวเลยทำให้เป็นคนที่เปลืองน้ำหอมอยู่พอสมควร ทริกง่ายๆ คือทาโลชั่นหรือครีมที่มีมอซ์เจอไลเซอร์รองไว้ก่อน แต่ต้องเลือกแบบที่ไม่มีกลิ่นหรือแพคกลิ่นเดียวที่ขายคู่กันมาเพื่อช่วยให้ผิวไม่ดูซับนำ้หอมจนเร็วเกินไป 

 

สำหรับคนที่มีผิวบอบบางคงต้องทำใจหลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอมไว้ก่อนดีที่สุดเพราะต่อให้เลือกส่วนผสมจากธรรมชาติ ปราศจากนั่นโน่นนี่แต่สุดท้ายน้ำหอมก็ยังเป็นการผสมของหลายส่วนอยู่เช่นเดิม ดังนั้นการรักษาไม่ให้มีกลิ่นตัวถึงแม้จะไม่ได้หอมมากแต่อย่างน้อยผิวคุณยังเนียนใสไม่ด่างน่าจะดีที่สุด

 

 

ตำแหน่งในการฉีด เป็นเรื่องที่มีการถกเถียงกันมากที่สุด หลากหลายตำราบนโลกใบนี้ แนะนำไปนี่คือส่วนที่โดนด่ามากที่สุด  ตำราส่วนใหญ่จะแนะนำให้ฉีดที่จุดชีพจร อย่าง ข้อพับ ข้อศอก หลังใบหู เพราะจุดเหล่านี้จะมีอุณหภูมิที่อบอุ่นเป็นพิเศษทำให้น้ำหอมติดทนนาน (ว่ากันอย่างนั้น) ตำราต่อมา ซอกคอ หน้าอก จุดเหล่านี้จะเป็นจุดที่ร่างกายปล่อยกลิ่นเฉพาะตัวออกมาผสมกับน้ำหอมแล้วจะออกมาเป็นกลิ่นเฉพาะ (ว่ากันอย่างนั้นเช่นกัน) ตำราพิเศษอย่างฉีดที่ข้อพับขา กลิ่นจะค่อยลอยขึ้นมา (ว่ากันไป)

ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วมีส่วนประกอบมากมายอย่างข้อมูลที่กล่าวมาเช่น ชนิดของน้ำหอม ประเภทกลิ่น ซึ่งตำแหน่งตายตัวในการฉีดนั้นคงสรุปได้ยาก บางกลิ่นอาจจะมีกลิ่นแรงการฉีดหลังใบหูอาจจะทำให้ผู้ฉีดฉุนเองจนเวียนหัว ดังนั้นเลือกและทดลองในแบบที่เป็นคุณเถอะครับ บางคนอาจจะฉีดที่ตัวบางคนอาจจะฉีดบนเสื้อผ้า ซึ่งการฉีดบนเสื้อผ้าอาจจะเปลืองและทำให้เสื้อผ้าเป็นดวง แต่อาจจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับคนไม่ชอบให้กลิ่นติดที่ตัวก็เป็นได้

 

ใจความสำคัญน่าจะอยู่ที่ ปริมาณ ของการฉีดมากกว่า ต้องไม่มากจนเกินไปที่ทำให้เป็นมลภาวะต่อตัวเองและผู้อื่นจากหอมจนกลายเป็นฉุนจนเวียนหัว ไม่ต้องแบ่งปันคนทั้งตู้รถไฟฟ้า ฉีดให้พอดีประมาณว่ายืนใกล้ ๆ มีกลิ่นอ่อนน่าค้นหาน่าจะดีเสียกว่า ต้องไม่อวดว่าฉีดน้ำหอมมาแพงอาบมันเข้าไป เชื่อสิครับว่าไม่ว่าน้ำหอมราคาเท่าไรถ้าอยู่กับถูกคนมันให้ความเย้ายวนได้อยู่แล้ว ดังนั้นจุดยากคือการค้นหากลิ่นที่เป็นสไตล์ของคุณที่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้จะดีเสียกว่า ออกตามหากลิ่นที่บอกตัวตนของคุณกันครับ

 

 

 

<< ทำความรู้จักกับ น้ำหอม

<< การเลือกซื้อน้ำหอม