A Digital Nomad's Guide
: เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานแบบมีสไตล์
- 12 กุมภาพันธ์ 2568
-
12,461
ในยุคที่การทำงานไม่ถูกจำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศ ผู้ชายสายดิจิทัลโนแมด (Digital Nomad) มีอิสระในการเลือกสถานที่ทำงานได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่เท่ๆ ในเมือง หรือมุ่งหน้าสู่ชนบทที่เงียบสงบเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ การย้ายโลเคชันไม่เพียงช่วยเพิ่มแรงบันดาลใจ แต่ยังช่วยรีเฟรชทั้งร่างกายและจิตใจ
MARSHALL MONITOR III A.N.C.
Tropicfeel All-Terrain
แต่การออกเดินทางเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทิ้งไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำสิ่งที่คุณควรรู้ ตั้งแต่การเลือกคาเฟ่ทำงาน เทคนิคการพักโรงแรมแบบมีสไตล์ ไปจนถึงการดูแลตัวเองให้พร้อมสำหรับทุกสภาพอากาศและทุกสถานการณ์
เริ่มต้นวันทำงานด้วย Cafe-Hopping อย่างมีสไตล์
สำหรับคนที่ยังต้องทำงานแม้จะเดินทาง การหาโลเคชันที่เหมาะสมคือเรื่องสำคัญ Cafe-Hopping หรือการเปลี่ยนบรรยากาศไปทำงานตามคาเฟ่เป็นไอเดียที่ช่วยให้คุณไม่รู้สึกจำเจ
MARSHALL MIDDLETON
Tropicfeel Hive
สิ่งที่ต้องมีเมื่อทำงานตามคาเฟ่ (Cafe-Hopping Essentials)
+ แล็ปท็อปสเปกแรง – เพื่อรองรับงานหนัก เช่น การตัดต่อวิดีโอ หรือโค้ดดิ้ง
+ Pocket WiFi หรือซิมอินเตอร์เน็ต – คาเฟ่บางที่เน็ตอาจไม่เสถียร พกของตัวเองไว้ดีกว่า
+ หูฟังตัดเสียงรบกวน – เพื่อโฟกัสงานได้แม้อยู่ในร้านที่มีคนเยอะ
+ กระเป๋าเป้ที่พกของได้ครบ – เลือกแบบมินิมอลและกันน้ำได้ เผื่อวันที่ต้องเดินทางหลายที่
+ พาวเวอร์แบงก์และปลั๊กพ่วง – ไม่ใช่ทุกคาเฟ่จะมีปลั๊กไฟให้
View this post on Instagram
เคล็ดลับเลือกคาเฟ่ให้นั่งทำงานสบาย
- WiFi ต้องเร็วและเสถียร – เช็กรีวิวหรือสอบถามก่อนสั่งเครื่องดื่ม
- ที่นั่งต้องสบาย – เก้าอี้แข็งหรือแคบเกินไปอาจทำให้นั่งทำงานนานๆ ไม่สะดวก
- บรรยากาศต้องเหมาะสม – บางคาเฟ่อาจมีเพลงดังหรือคนพลุกพล่านเกินไป
การพักโรงแรมในแบบคนมีสไตล์
การเลือกที่พักระหว่างเดินทางมีผลต่อทั้งประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพการพักผ่อน โรงแรมที่ดีไม่จำเป็นต้องแพง แต่ควรตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ
View this post on Instagram
วิธีทำให้ห้องพักรู้สึกเหมือนบ้าน (หรือดีกว่า)
+ พกสเปรย์หอมหรือเทียนหอม – เปลี่ยนบรรยากาศห้องให้ผ่อนคลายขึ้น
+ พกลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก – เปิดเพลงโปรด สร้างบรรยากาศทำงานหรือพักผ่อน
+ ดอกไม้หรือพืชเล็กๆ – ทำให้ห้องมีชีวิตชีวา และช่วยฟอกอากาศ
+ ครีมอาบน้ำและชุดนอนของตัวเอง – ของใช้ในโรงแรมอาจไม่ถูกใจ พกของที่คุ้นเคยจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
หากเลือกพักที่โรงแรม ควรเลือกที่มี Co-working Space หรือมุมสงบ เพื่อให้สามารถทำงานได้โดยไม่มีอะไรรบกวน และอย่าลืมสอบถามเรื่อง WiFi ว่าแรงพอสำหรับงานของคุณหรือไม่
Men's Basic Needs: Fuel, Hydration, and Rest : พักโรงแรมในแบบคนมีสไตล์
แต่งตัวให้พร้อม – City-to-Countryside Fashion Tips
การเดินทางจากเมืองสู่ธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่าง "แต่งตัวดี" หรือ "แต่งตัวสบาย" เพราะคุณสามารถทำทั้งสองอย่างได้
3 สไตล์ที่เหมาะกับ Digital Nomad สายเดินทาง
View this post on Instagram
Urban Casual – สำหรับวันที่ต้องประชุมออนไลน์หรือพบลูกค้าในเมือง
- เสื้อเชิ้ตลินิน + กางเกงชิโน่ + สนีกเกอร์มินิมอล
- แจ็กเก็ตเบลเซอร์บางๆ ที่ดูโปรแต่ไม่อึดอัด
Adventure-Ready – สำหรับวันที่ออกไปสำรวจธรรมชาติ
- เสื้อยืดผ้าแห้งเร็ว + กางเกงขาสั้นหรือกางเกงเดินป่า + รองเท้าผ้าใบกันน้ำ
- หมวกแก๊ปและแว่นกันแดดเพื่อปกป้องจากแสงแดด
Lounge Mode – สำหรับวันพักผ่อนในโรงแรมหรือคาเฟ่
- เสื้อฮู้ดหรือสเวตเตอร์เบาสบาย + กางเกงจ็อกเกอร์ + รองเท้าแตะมีสไตล์
ไอเทมเสริมที่ควรพกติดกระเป๋า
+ แจ็กเก็ตพับได้ – กันลม กันฝน พกง่าย
+ ผ้าพันคอหรือหมวกไหมพรม – อากาศหนาวเมื่อไหร่ก็หยิบมาใช้ได้
+ รองเท้าหลายคู่ – สนีกเกอร์สำหรับวันทำงาน และรองเท้าเดินป่าสำหรับวันลุย
ไปต่างจังหวัดต้องพกครีมบำรุงอะไรบ้าง?
แม้จะเดินทางไปชนบทหรือพื้นที่ธรรมชาติ แต่ผิวของคุณก็ยังต้องการการดูแล
5 ไอเทมที่ควรมีติดกระเป๋า
+ ครีมกันแดด – ควรมีค่า SPF50+ และ PA+++ เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV
+ มอยส์เจอไรเซอร์ – ป้องกันผิวแห้งจากลมหนาวหรืออากาศแห้ง
+ ลิปบาล์ม – ป้องกันริมฝีปากแห้งและแตก
+ เซรั่มวิตามินซี – ช่วยให้ผิวดูสดใส ไม่โทรมแม้ทำงานดึก
+ ครีมอาบน้ำหรือแชมพูที่ใช้ประจำ – ของโรงแรมอาจไม่เหมาะกับสภาพผิวหรือเส้นผมของคุณ
การเป็น Digital Nomad ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเลือกแค่ "ทำงาน" หรือ "พักผ่อน" แต่คุณสามารถบาลานซ์ทั้งสองอย่างได้ เพียงแค่เตรียมตัวให้ดี เลือกสถานที่ที่ตอบโจทย์ และไม่ลืมดูแลตัวเอง
เพราะสุดท้ายแล้ว… การทำงานที่ไหนก็ไม่สำคัญ เท่ากับการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีสไตล์ในแบบของคุณเอง