Marathon 101

BY Poy T.

  • 17 มิถุนายน 2562
  • 7,257

“มาราธอน” ชื่อเรียกที่ทำให้การเคลื่อนไหวของคุณดูมีเสน่ห์มากขึ้นซึ่งแน่นอนว่าใน พ.ศ. นี้เราน่าจะพบเห็นการวิ่งมาราธอนกันจนคุ้นตาแต่เราก็เชื่อว่ายังมีหลายคนที่ยังเป็นแค่นักสำรวจและยังไม่ยอมก้าวออกไปลงสนามจริงกันอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

และถ้าคุณรู้ตัวเองว่าเป็นหนึ่งในคนที่แอบมองมาราธอนอยู่เสมอแต่ยังไม่กล้าหรือไม่พร้อมที่จะไปวันนี้เราจะพาคุณมาเรียนวิชา Marathon 101 เพื่อเตรียมพร้อมไปเก็บหน่วยกิตในสนามจริงที่กำลังรอคุณอยู่กันเลย

 

เริ่มต้นต้องรู้อะไรบ้าง?

ก่อนอื่นเราอยากบอกคุณเอาไว้ก่อนว่าอย่าลงสมัครแล้วไปวิ่งกันแบบทันทีเพราะถ้าคุณไม่ใช่คนที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำล่ะก็มันอาจจะกลายเป็นอันตรายกับร่างกายของคุณได้ ดังนั้นเราอยากให้คุณเรียนรู้ที่จะวิ่งสะสมไมล์กันก่อนโดยทำการฝึกอย่างใจเย็นด้วยการวิ่งช้า ๆ หรือที่เรียกกันว่า Long Slow Distance อย่างน้อยทุก 1 วันต่อสัปดาห์และคอยเช็คตัวเองอยู่เสมอว่ามีลิมิตอยู่ที่ประมาณไหนเพื่อให้ร่างกายของคุณรู้จักและคุ้นเคยกับการวิ่งระยะยาวขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

แล้วมีมาราธอนแบบไหนให้คุณได้ลงสนามจริงบ้าง

Fun Run
เปิดมาด้วยความสนุกกันก่อนกับ Fun Run หรือที่ชอบเรียกกันว่าเดิน วิ่ง การกุศลนั่นเองซึ่งระยะทางส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 3.5 – 5 กิโลเมตร ถือว่าเหมาะมากถ้าคุณอยากจะลองสนามแรก ๆ ด้วยการวิ่งแบบนี้

Mini Marathon
เริ่มจริงจังกันขึ้นมาอีกขั้นพัฒนาการฝึกซ้อมมาจนถึงการวิ่งแบบนี้ซึ่งจะมีระยะทางอยู่ที่ 10.5 กิโลเมตร เรียกได้ว่าถ้าคุณกำลังจะผันตัวเองเป็นนักวิ่งที่พัฒนา Level ขึ้นแล้วล่ะก็สนามนี้ก็น่าสนใจสำหรับคุณไม่น้อย และเป็นระยะทางที่กำลังเหมาะสมกับการออกกำลังกายอีกด้วย

Half Marathon
ขยับความเซียนกันขึ้นมาอีกระดับซึ่งระยะทางของ Half Marathon ที่ว่าก็อยู่ที่ 21 กิโลเมตรนั่นเอง สนามนี้ควรผ่านการฝึกซ้อมมาในระดับหนึ่งแล้วและยังควรรู้วิธีป้องกันอาการบาดเจ็บต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณอีกด้วย และแน่นอนว่าสนามนี้จะทำให้คุณได้เจอกับนักวิ่งมืออาชีพมากขึ้นอย่างแน่นอน

 

 

 

Full Marathon
และนี่คือมาราธอนฉบับเต็มที่จะทำให้คุณสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดที่ผ่านมาของตัวเองไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียวกับระยะทางวิ่งกว่า 42.195 กิโลเมตรซึ่งถือว่าเป็นระยะทางมาตรฐานระดับโลกของการวิ่งมาราธอนเลยก็ว่าได้ ซึ่งจำเป็นมากที่คุณจะต้องผ่านการฝึกฝนและการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดก่อนเพราะการวิ่งแบบนี้ท้าทายความสามารถของคุณไม่น้อยเลยทีเดียว

Ultra Marathon
นึกว่าจะหมดกันแล้วล่ะสิเราขอทิ้งท้ายสำหรับการแนะนำสนามการวิ่งมาราธอนด้วยการวิ่งแบบ Ultra Marathon ซึ่งมีระยะการวิ่งตั้งแต่ 42.195 กิโลเมตรขึ้นไปนั่นเองใครที่จะก้าวผ่านมาถึงสนามนี้ได้จำเป็นมากที่จะต้องผ่านการฝึกซ้อมและเข้าใจร่างกายของตัวเองดีพอสมควรและก็ถือว่าเป็นสนามที่ให้คุณได้ทดสอบแรงกายแรงใจได้ดีพอสมควรเลยทีเดียว

อะไรที่คุณอาจะต้องเจอเมื่อไปวิ่งมาราธอน

เชือกรองเท้าหลุด
การมีสติสำคัญเสมอเพราะการวิ่งมาราธอนในบางจุดจะค่อนข้างมีคนตามกันมาติด ๆ ดังนั้นคุณควรมีสติไว้เสมอถ้าเกิดเชือกรองเท้าหลุดขึ้นมาเราขอแนะนำให้คุณค่อย ๆ วิ่งเลี่ยงไปที่ข้างทางแล้วค่อยมัดเพราะถ้าหยุดกลางทางอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้และอย่าปล่อยไว้นานเพราะอาจจะเป็นอันตรายกับตัวคุณเองได้เช่นกัน

ของตก                                                                                                                                                                                                                                                                                          แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะก้มลงเก็บทันทีแต่ถ้าคุณอยู่ระหว่างการวิ่งคุณจำเป็นต้องค่อย ๆ หยุดแล้วค่อยหันกลับมาเก็บเพราะการหยุดและก้มในทันทีอาจทำให้คุณวูบหมดสติหรือเกิดอาการขาดเลือดไปเลี้ยงหัวใจก็เป็นได้

 

 

ข้างทางเรียกอย่าหันไปคุย
เราอยากให้คุณได้เพื่อนใหม่จากการวิ่งเพราะมันดีกับคุณแน่ ๆ แต่การที่มีคนเรียกกะทันหันและคุณหันไปแน่นอนว่ามันอาจจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้เราขอแนะนำเหมือนเดิมให้วิ่งพร้อมกับสติ มองตรง และคอยสังเกตรอบ ๆ  อย่างช้า ๆ จะดีกว่าแน่นอน

 

ไม่พร้อมอย่าฝืน
คุณอาจจะซ้อมมานานรอคอยวันได้ลงสนามจริงแต่ถ้าคืนนั้นคุณเกิดท้องเสียกะทันหัน พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือเกิดไม่สบายอะไรขึ้นมาก็ตามการฝืนไปวิ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคุณแน่ เราเข้าใจว่ามันน่าเสียดายแต่กันเอาไว้ย่อมดีกว่าแก้เสมอ

 

 

โอเค! หลังจากที่คุณพอรู้จักมาราธอนกันมากขึ้นแล้วขั้นต่อไปก็ถึงภาคปฏิบัติของคุณแล้วอย่าลืมใส่ใจกับรองเท้าอุปกรณ์เสื้อผ้าที่ตะใช้ในการซ้อมวิ่งให้ดีเพราะนี่ก็คืออุปกรณ์ที่จะไปลงสนามจริงกับคุณเช่นกัน…ขอให้สนุกกับการเคลื่อนไหวก้าวผ่านข้อจำกัดของตัวเองกันนะคะ