คุณเป็นคน Toxic ของคนอื่นหรือเปล่า?

เดี๋ยวนี้คำว่า Toxic เหมือนจะแพร่หลายมากกว่าแค่ในเรื่องของสารเคมีกันแล้ว เพราะมันลามมาถึงนิสัยใจคอของคนที่เป็นพิษกับเราซึ่งมีหลากหลายเรื่องที่เล่าถึงวิธีรับมือ หลีกหนี ทำใจ และอีกมากมาย แต่เราเหมือนลืมมองไปว่าบางทีเราเองก็อาจเป็น Toxic ของใครอยู่หรือเปล่า

เราจะไม่พาคุณมาโทษหรือลดคุณค่าในตัวเอง แต่เราจะพาคุณมา Check ดูให้แน่ใจกันสิว่าคุณเองไม่ได้กำลังทำตัวให้คนอื่นลำบากใจหรือถ้ากำลังทำเราก็คิดว่าคุณน่าจะไหวตัวทันหลังอ่านข้อสังเกตที่เรารวมมาให้ในวันนี้...มาเริ่มกันเลยดีกว่า

 

คุณโทษคนอื่น สิ่งอื่น กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณเสมอ

ถ้าคำถามคือ ทำไมวันนี้มาสาย? แล้วคำตอบของคุณคือการคิดหาสารพัดสาเหตุตั้งแต่เดินออกออกห้องมาแล้วแม่เรียกใช้ ก้าวเท้าออกบ้านแล้วเหยียบอึเจ้าดิกกี้ รถติดตรงไฟแดง ยามแลกบัตรช้า คนแน่นลิฟต์ หรืออะไรก็ตามโดยไม่ได้มองตัวเองเลย เราอยากให้คุณเริ่มหยุดคิด บางทีคุณอาจจะไม่ต้องโทษอะไรเลย แล้วตอบกลับไปเพียง ขอโทษด้วยครับ วันนี้ผมตื่นสาย จากนี้จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก จากนั้นลองมาทบทวนกับตัวเองดูว่าจริง ๆ แล้วจุดไหนที่ทำให้คุณมาสายจากนั้นแก้ไขมัน...น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด และคนที่ต้องมาคอยถามคุณอย่างเจ้านายจะไม่เกิดความรู้สึกว่าคุณชอบ “อ้าง” ขึ้นอีกต่อไป และแน่นอนว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ในการอยู่ร่วมกันที่ดี

 

 

คุณชอบเม้าส์คนอื่นอยู่ใช่ไหม?

มันน่าจะสนุกน่าดูถ้าเราได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ แล้วมีเสียงหัวเราะสนุกสนานแต่เรื่องราวเหล่านั้นไม่ควรจะเป็นเรื่องของคนอื่นใช่หรือไม่ เพราะถ้าเป็นคุณเองที่โดนเราเชื่อว่าคุณคงไม่มีความสุขกับมันมากเท่าไร

การคิดถึงใจเขาใจเราไม่เพียงแค่ทำให้คุณเป็นมิตรกับคนอื่นมากขึ้นแต่มันยังช่วยเพิ่ม Positive Thinking ให้กับตัวคุณเองคุณจะมองโลกในแง่ดีมากขึ้น เห็นข้อดีของทุกคนและทุกสิ่งมากขึ้น และคุณก็จะไม่เป็น Toxic ของใครอย่างแน่นอน

 

 

คุณมักจะรับมากกว่าให้

เราไม่ได้อยากให้คุณให้คนอื่นจนตัวเองลำบากแต่คุณต้องยอมรับความจริงอย่างน้อยก็กับตัวเองว่าทุกวันนี้คุณได้มากกว่าให้อยู่หรือเปล่า

อย่างถ้าคุณเห็นต่อหน้าเลยว่ามีคนกำลังเดือดร้อนคุณเลือกที่จะเดินเข้าไปช่วยหรือเดินหนี คุณหวังที่จะให้เพื่อน ๆ รับฟังในเวลาที่คุณทุกข์แต่เวลาที่เขาต้องการคุณกลับไม่พร้อมที่จะรับฟัง หรือแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยอย่างการทานอาหารร่วมกัน การแชร์ค่าใช้จ่าย เราอยากให้คุณลองใส่ใจรายละเอียดพวกนี้ขึ้นอีกนิด ยอมรับความจริงกับตัวเองอีกหน่อย ปรับเท่าที่ไหว หรือจะลองเปิดใจถามคนรอบข้างเลยก็ได้ เราว่ามันช่วยลด Toxic ในตัวคุณดีพอสมควร

 

 

ชีวิตคุณมันดราม่าไปหมด

คุณเจอแต่เรื่องร้าย ๆ อกหัก เงินไม่พอ เป็นหนี้ รถพัง เพื่อนหักหลัง เจ้านายไม่ชอบ โดนนินทา หรืออะไรก็ตามที่เป็นเรื่องแย่ ๆ บางทีคุณอาจต้องมองตัวเองว่าคุณทำตัวไม่ค่อยดีแล้วดึงดูดเรื่องแบบนี้เข้ามาหรือเปล่า?

เวลาเจอเรื่องแย่ ๆ คุณโทษทุกอย่างหรือย้อนกลับมามองสาเหตุ คุณแก้ไขหรือแค่บ่น คุณรักตัวเองมากพอที่จะลุกขึ้นแล้วก้าวผ่านมันไปหรือไม่ แน่นอนว่าการได้รับความเห็นใจและห่วงใยคือความอบอุ่นใจที่ใคร ๆ ก็ต้องการแต่ถ้าคุณเรียกร้องจากคนรอบข้างมากเกินไปคุณอาจกลายเป็น Toxic ในชีวิตของพวกเขาได้

 

 

คุณต้องการถูกเสมอ
คุณมั่นใจว่าสิ่งที่ทำมันถูก ไม่มีตรงกลาง ไม่ประนีประนอม มันมีแค่ถูกกับผิดเท่านั้น และแน่นอนว่าถ้าคุณดูแนวโน้มว่าอาจจะผิดคุณจะต่อสู้จนได้ชัยชนะมา

หลายครั้งหรือแทบทุกครั้งคุณอาจจะชนะแต่ความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคนที่คุณชนะอาจไม่สวยงามแล้วหรือมันอาจพังทะลายไปเลยก็ได้

เราอยากให้คุณมองตามความจริง ยอมรับ หากคุณถูกจริง ๆ การเข้าใจอีกฝ่ายก็เป็นเรื่องที่น่าทำ ถ้าคุณผิดก็แค่ยอมรับมัน เราเชื่อว่าความจริงใจช่วยให้คุณผ่านข้อผิดพลาดไปได้ไม่ยาก

 

 

 

มองเห็นแค่ด้านลบ
ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ แต่คุณดันเห็นแต่ด้านลบ เพื่อนสนิทของคุณเลือกเดินมาถามว่าชุดนี้เป็นอย่างไรบ้าง? จริง ๆ คุณเห็นแล้วว่าสีมันสวย ทรงมันดี แต่คุณกลับเลือกบอกเธอว่า ตรงสะโพกมันรัดไปหน่อย แถมตรงหน้าอกก็โป๊ ถ้ามันยาวกว่านี้ได้คงดี

แน่นอนว่าคนฟังต้องเสียความมั่นใจไปบ้าง แม้ว่าความจริงมันจะเป็นอย่างที่คุณพูดจริง ๆ แต่การเลือกมาหาข้อดีก่อนแล้วปรับแก้ข้อเสียเป็นวิธีที่ทำให้คุณห่างไกลการเป็นคน Toxic มากกว่าแน่นอนค่ะ

 

 

เรื่องของการเป็น Toxic ในชีวิตใครจริง ๆ ต้องมองกันหลายมุม วิเคราะห์กันหลายสไตล์ แต่ถ้าคุณมีพื้นฐานในการยอมรับความจริงติดตัวไว้ เพิ่มความจริงใจ เข้าใจ ใส่ใจ และยืดหยุ่นเข้ามาอีก เชื่อว่าคุณคงเป็นหนึ่งในคนที่หลายคนอยากมาสานสัมพันธ์ด้วยอย่างแน่นอน