LOUIS VUITTON #PF19

• Pre Fall/Winter 2019

BY METROSOCIETY

  • 05 กรกฏาคม 2562
  • 11,304

พรีคอลเลคชั่น ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019: นิยามสำหรับคอลเลคชั่นแฟชั่นที่เน้นไปที่ชิ้นหลักของตู้เสื้อผ้า เปิดตัวเสมือนเป็นปฐมบทไปสู่คอลเลคชั่นหลัก ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019 คอลเลคชั่นแรกที่หลุยส์ วิตตองของเวอร์จิล แอบโลห์  ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ห้องเสื้อสุภาพบุรุษ

 

เป็นการสำรวจธรรมชาติของคอลเลคชั่นกึ่งกลางซีซั่น และอัพเดทเพิ่มเติม “คลังคำศัพท์ บัญญัติโดยเวอร์จิล แอบโลห์”  (Vocabulary According to Virgil Abloh) ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าในเดือนมิถุนายนคอลเลคชั่นนี้เจาะไปที่แนวคิดเรื่อง “ชิ้นหลัก” (essential) -- หมายถึงเสื้อผ้าที่เป็นกุญแจหลักของทุกตู้เสื้อผ้า

 

 

แนวคิดเรื่องเสื้อผ้าที่ไร้กาลเวลาและไม่ถูกครอบงำด้วยเทรนด์ จึงกลายมาเป็นใจความหลักของคอลเลคชั่นนี้ โดยมีแก่นภาพรวมหลักเป็นกรุงโตเกียว เมืองหลวงที่หลอมรวมสารพันวัฒนธรรม และช่วงเวลาทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ด้วยกัน ชิ้นหลักและสีสันของเสื้อผ้าในคอลเลคชั่นล้วนดึงมาจากเครื่องแบบสามัญที่เราพบได้ในทุก ๆ วันบนขนส่งสาธารณะ กิจกรรมและกีฬากลางแจ้งในโตเกียว ลวดลายกราฟิกเองก็เป็นการเชิดชูประเทศญี่ปุ่น

 

 

 

แจ็คเก็ตวินด์เบรคเกอร์ เสื้อเชิ้ต และเสื้อยืดที่ตกแต่งด้วยตราเครื่องหมายต่าง ๆ หยิบยืมมาจากแจ็คเก็ตที่สวมใส่กันในการแข่งขันเรือบังคับวิทยุ เทรนช์โค้ทและพาร์ก้าทำจากผ้าเสื้อกันฝนแบบญี่ปุ่นสีกรมท่าหรือหนังสีดำ รวมไปถึงแจ็คเก็ตพาร์ก้าหนังน้ำหนักเบามีฮู้ดสีน้ำเงินสว่างชวนให้นึกถึงเดรสโค้ดของนักกีฬาทางน้ำ

 

 

แจ็คเก็ตบอมเบอร์ที่โยงไปถึงการแต่งกายของนักศึกษาวิทยาลัยถูกนำมาตีความใหม่ในรูปแบบของลายตารางญี่ปุ่นสีม่วง หรือทำจากขนสุนัขจิ้งจอกสีน้ำตาลเทา ส่วนเสื้อแจ็คเก็ตนักบินสีดำก็ดูสว่างขึ้นด้วยการแต่งขนแกะเชียร์ลิ่งสีขาวและแถบคาดหนังงู ส่วนเสื้อหนาวคอตั้งก็มีทั้งแบบที่ทำจากขนแกะเชียร์ลิ่งสีออฟไวท์ แต่งกระเป๋าด้วยผ้าเวเลอร์ (velour) สีแดง

 

 

คอลเลคชั่นนี้ยังหยิบแกนเรื่องความเป็นเด็กผู้ชายมาพูดถึง ผ่านเทคนิคการสร้างมิติยกนูนบนเสื้อตัวนอก ไปจนถึงชิ้นเทเลอร์ และดีเทลสายจูง (harness) ในโทนสีกรมท่าและส้ม สะท้อนแนวคิดเรื่องเสื้อผ้าสำหรับปกป้องด้วยการห่อหุ้มเด็กผู้ชายในช่วงวัยเริ่มต้นของชีวิต งานเทเลอร์ยังคงต่อยอดมาจากรูปแบบซิกเนเจอร์ที่เขาวางรากฐานไว้ตั้งแต่คอลเลคชั่นก่อนหน้า

 

เช่นเดียวกับคอนเซปต์ “มิด เลเยอริ่ง” (mid-layering) ที่มีเบลเซอร์ กางเกง และสายจูงรวมกันเป็นรูปแบบใหม่ของชุดสูทสามชิ้น โดยชิ้นกางเกงตีความมาจากกางเกงคาร์โก้แบบคลาสสิก หรืออาจจะแต่งดีเทลกระเป๋าแบบนำด้านในออกมาโชว์ (inside-out) 

 

 

Accessomorphosis อีกหนึ่งศัพท์ผสมจากแอบโลห์ที่รวมเอาเสื้อผ้ากับกระเป๋าไว้บนชิ้นเดียวกัน เป็นอีกหนึ่งชิ้นหลัก พรีคอลเลคชั่น ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2019 ยังเป็นการเปิดตัว Compressomorphosis อีกหนึ่งคำใหม่ที่หมายถึงเสื้อผ้าซึ่งตกแต่งด้วยกระเป๋าซองซึ่งสามารถพับรีดเก็บเสื้อผ้าลงไปได้ในยามเดินทางส่วนกระเป๋าที่ดัดแปลงมาจากชิ้นเด่นบนรันเวย์คอลเลคชั่นฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน 2019

 

มาในโทนสีกรมท่า เหลืองเข้ม ม่วง เดนิมลายโมโนแกรม และหนังสีดำปั๊มนูน กระเป๋าโท้ตและกระเป๋าสะพายข้างทรงแบนมาจากพวกถุงใช้ในครัวเรือนและกระเป๋าแบบใช้แล้วทิ้ง กระเป๋าถุงชอล์ค (chalk bag) กระเป๋าสะพายข้างใบจิ๋ว และเป้สะพายหลังล้วนมีที่มาจากกีฬาเอ็กซ์ตรีม 

 

 

อีกหนึ่งแกนเรื่องกีฬาเอ็กซ์ตรีมที่อ้างอิงถึง ถูกสะท้อนผ่านรองเท้าที่ผสมผสานสนีคเกอร์เข้ากับรองเท้าบู้ทปีนผา และการปรับทรงรองเท้าบู้ทช่างคลาสสิกที่มาในหนังนูบัคสีคาเมล รองเท้าสนีคเกอร์ทำจากหนังเอ็กซอติกทั้งนกกระจอกเทศและจระเข้ ส่วนรองเท้าทางการอย่างดาร์บี้ (derby) กลับดูสปอร์ตขึ้นด้วยดีเทลตกแต่งสีนีออน

 

เครื่องประดับเน้นย้ำถึงสไตล์นอร์มคอร์ (normcore) ที่เป็นใจความหลักของคอลเลคชั่น แหวนโลโก้รูปหัวใจแต่งครัสตัลสีเขียวและสีฟ้า ชวนให้นึกถึงแหวนหมั้นตามขนบสากล ส่วนสายโซ่วิวัฒนาการมาสู่โซ่ที่เชื่อมกันด้วยคริสตัล ทองคำ ลายโมโนแกรมสลัก และดีเทลลงยาสีน้ำเงินและส้ม