อยากปล่อยใจไปกับ - เขา
- 26 กุมภาพันธ์ 2564
- 9,130
ใครที่ปีที่แล้วยังไม่ได้เที่ยวหรือใครที่วันลายังเหลือเราแนะนำว่าตามติดบทความนี้ของ Metro Society กันให้ดีเพราะเราจะพาคุณปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา…อะไรมันจะเหมาะไปกว่าการได้ไปเที่ยว (กับ) เขาในช่วงปลายหนาวหรือเล็งเอาไว้สำหรับปลายปีนี้แล้วเขาที่ไหนที่น่าไปบ้างไปถึงแล้วจุดไหนที่คุณควรโฟกัสวันนี้เราได้รวมเขาที่น่าไปเยี่ยมมากที่สุดในไทยมากฝากกัน…รับรองว่าความสุขจากธรรมชาติกำลังรอต้อนรับคุณอยู่อย่างแน่นอน
เขาช้างเผือก
มาเริ่มต้นกันที่จังหวัดกาญจนบุรีกันดีกว่าจังหวัดนี้บอกเลยว่ามีแหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติที่หลากหลายมากแต่เขาช้างเผือกนี่แหละคือหนึ่งในที่ที่น่าสนใจมากที่สุด
เขาแห่งนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิการเดินทางได้รับเสียงโหวตว่าค่อนข้างสะดวกอยู่พอตัวทั้งทางรถและสองเท้าที่ก้าวเดินแต่ที่โหวตและให้คะแนนกันอย่างท่วมท้นก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของความสวยนั่นเอง
จุดมุ่งหมายของการไปเขาแน่นอนว่ามันคือการพิชิตยอดเขาแต่ระหว่างทางก็สำคัญไม่แพ้กันที่นี่มีประสบการณ์นอนเต๊นท์รวมทั้งการหุงหาอาหารมากินกันเองมอบให้คุณ แถมรอบตัวมันดูธรรมชาติไปหมดไม่เว้นแม้แต่ส้วมที่ยังคงเป็นแบบหลุมอยู่ และสุดท้ายคุณจะเดินทางไปอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 1,249 เมตร และขึ้นชื่อว่าเป็นผู้พิชิตเขาช้างเผือกเป็นที่เรียบร้อย
อุทยานแห่งชาติเขาหลวง
ลงใต้กันมาที่นครศรีธรรมราชกันบ้างดีกว่าและถึงแม้จะเป็นภาคใต้แต่ภูเขาก็สวยไม่แพ้ใครและเราก็อยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ “อุทยานแห่งชาติเขาหลวง” อย่างเป็นทางการกันเดี๋ยวนี้เลย
ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจธรรมชาติของที่นี่กันก่อนว่าเขาหลวงเป็นป่าและยังเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากความดิบของป่าเรียกได้ว่าเป็นที่สุดของภาคใต้กันเลยทีเดียว พอเข้าป่าก็ต้องมีผู้เชี่ยวชาญเข้าไปด้วยและเราก็ขอแนะนำว่าคุณควรเตรียมตัวแบบพื้นฐานกันไปก่อนด้วยเพราะคุณต้องเจอกับความชื้นและสัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมายเมื่อตัดสินใจเดินทางไปทำความรู้จักกับเขาหลวงให้ลึกขึ้น
และสุดท้ายคุณจะเดินทางขึ้นไปกว่า 1,835 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลเพื่อจะได้ชื่นชมกับความสมบูรณ์ของพื้นที่ป่าที่ใคร ๆ ก็เรียกกันว่า “ความอุดมสมบูรณ์ของป่าใต้”
ยอดเขาโมโกจู
เห็นชื่อแล้วเหมือนจะพาคุณข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลแต่ความจริงแล้วเป็นยอดเขาที่ตระง่านอยู่ในจังหวัดกำแพงเพชรของบ้านเรานั่นเองซึ่งบอกเลยว่าพกความโหดมาท้าทายนักเดินทางไม่ใช่เล่น
หลัก ๆ คุณจะนอนอยู่ท่ามกลางป่าเขาแห่งนี้อยู่ประมาณ 3 วัน 2 คืน ได้กินอาหารที่ทำกันขึ้นมาเอง แล้วนอนอยู่กลางป่าฟังเสียงธรรมชาติและสูดอากาศดี ๆ ตุนไว้ใช้ให้เต็มปอด จากนั้นก็เดินบ้างพักบ้างชมธรรมชาติและเรียนรู้ความเป็นไปจนสุดท้ายเมื่อคุณเดินทางมาถึงเมตรที่ 1,964 ก็ถือว่าคุณเอาชนะยอดเขาที่ยกให้เป็นเขาที่สูงมี่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์กันแล้ว
ถ้าใครที่เบื่อการท่องเที่ยวในเมืองแล้วก็ไม่อยากจะนอนเฉย ๆ อยู่ที่ชานเมืองเราก็ขอแนะนำว่าเขานี่แหละเป็นความท้าทายใหม่ ๆ ที่คุณน่าจะลองไปลุยกันสักครั้งมองข้ามความเหนื่อยหลบผ่านความกลัวแล้วออกไปเป็นผู้พิชิตยอดเขากันแต่ละก้าวของคุณมันต้องมีประสบการณ์ดี ๆ กลั่นออกมาเป็นของฝากสุดพรีเมี่ยมให้กับตัวคุณเองได้อย่างแน่นอน