MCQ ALEXANDER MCQUEEN

• Spring/Summer 2016

BY Staff writer Two

  • 12 กรกฏาคม 2559
  • 57,507

โครงสร้างของเสื้อผ้าจะดูสบายๆและมีการปรับเปลี่ยน มีการใช้กระโปรงแบบสก็อต (Kilt Style) เข้ามา เพื่อสร้างโครงสร้างที่ดูอ่อนโยนในซีซั่นนี้ เสื้อผ้าแต่ละชิ้นจะถูกใส่แบบ Block Colours ไม่ว่าจะเป็น ลายปริ้นท์บนลายปริ้นท์ หรือสีดำกับสีดำคู่กัน โดยสีแดงจะเป็นสีที่นำมาตัดเพื่อเพิ่มความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น

 

 

ส่วนที่เพิ่มเติมสำหรับ SS16 ก็คือ โลโก้สัญลักษณ์ของ MCQ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นและให้ความรู้สึกของรูปแบบงานศิลปะของยุค 80 และเสื้อผ้าออกแบบมาเป็นชุดโอเว่อร์ไซส์ และใส่ดีเทลเล็กๆ ของความเป็นกีฬาทำให้เกิดความรู้สึกของ ชุดยูนิฟอร์มของคนเมือง โดยเสื้อเป็นไอเท็มหลักของซีซั่นนี้ด้วยการออกแบบที่คลาสสิก ไม่ว่าจะเป็น Blouson เสื้อกันลม เสื้อโปโล เสื้อคอเต่า และเสื้อบอมเบอร์แจ็กเก็ต ทั้งหมดตัดโดยใช้ผ้าคอตต้อนลายตาราง แต่ก็เพิ่มความทันสมัยด้วยการเพิ่มดีเทลของเครื่องแต่งกายกีฬา พร้อมกับโลโก้เอกลักษณ์ของ MCQ

 

ลายพิมพ์ของซีซั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินจัดแสง และความสร้างสรรค์ที่มาจากสป็อตไลท์และเงา ซึ่งมีทั้งลายกราฟฟิค ลายพิมพ์ที่เป็นเส้นตรง ซึ่งให้ความรู้สึกที่ดูแล้วดูนุ่มนวลเหมือนหมู่ดอกไม้ ซึ่งสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความแข็งกับความอ่อนที่เป็นเอกลักษณ์ของ McQ

 

ในส่วนของลายพิมพ์กราฟฟิคที่เป็นเส้นตรงนั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปินจัดแสงที่ชื่อว่า Denielle de Batte จึงออกมาเป็นเสื้อยืด เสื้อกีฬา และเสื้อเชิ้ตคอตต้อน แต่ยังเพิ่มความเป็นมินิมอลในสไตล์ McQ ด้วยการเล่นแสงเงาทับไปมาบนทั่วทั้งตัวเพื่อให้เกิดเป็นลวดลายกราฟฟิค โดยใส่ลงไปในเสื้อขนาดโอเวอร์ไซส์ที่ทาจากผ้าไหมพรม ในส่วนของลายพิมพ์ดอกไม้นั้น จะเป็น Abstract และ Monocrome ซึ่งเป็นไอเท็มที่โดดเด่นของคอลเล็กชั่นนี้

 

 

 

ในส่วนของเครื่องหนัง ถูกออกแบบให้มีความแข็งแรง ทนทาน แต่ก็ซ่อนด้วยความเรียบหรู โดยใส่ Kilt Style ลงไป ไม่ว่าจะเป็น Blouson shirts หรือ Classic Biker Jacket และเทคนิคลายเทป (Taping) ถูกนามาใช้อีกครั้งในซีซั่นนี้ โดยใช้เป็นดีเทลลงบนเสื้อสเวตเตอร์ ทำให้ McQ ออกมามีความเป็นสปอตเล็กๆ แต่ยังคงรูปแบบการตัดเย็บนั้นคงไว้ซึ่งรูปแบบที่คลาสสิคแต่ในครั้งนี้ถูกเปลี่ยนไป เหลือไว้ซึ่งความนิ่มนวล ของรายละเอียดของชุดกีฬา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรายละเอียดของการจับกลีบเพื่อเพิ่มความเป็นสปอตลุคที่ดูเนี๊ยบมากขึ้น

 

ในส่วนของสีที่ใช้ในคอลเลคชั่นนี้จะเป็นสีหลักๆ เช่น ดา ขาว และ midnight navy ตัดกับสีแดง และเหลือง ซึ่งเป็นสีไฮไลท์สำหรับ Pop Colour ส่วน Tonal Greys จะถูกใช้เป็นสีพื้น โดยสไตล์ต่างๆ จะถูกตั้งชื่อจากนักร้องที่มีชื่อเสียงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อแสดงถึงการเชื่อมต่อของวัฒนธรรมทางดนตรี