Off - Trend is the New Black
- 03 กุมภาพันธ์ 2563
- 13,665
สองสามปีมานี้กระแสแฟชั่นแบบ Off-Trend ไม่แคร์โลก ดูจะยังมาแรงอยู่มาก
อธิบายง่าย ๆ ก็เป็นการที่หยิบจับอะไรก็ได้ที่ไม่ได้อยู่ในกระแส ความนิยม เทรนด์ หรือ ธีมหลักบนเวทีแฟชั่นโลก
มาประโคมลงไป แต่นั่นก็ไม่ใช่ทั้งหมด - - เพราะต้องมีไอเดียและคอนเซ็ปท์มาช่วยจับไว้ให้ลุคและคอลเลคชั่นนั้นอยู่ในร่องในรอย รวมถึงนิยามใหม่ของหลายคนที่ว่ากันว่าของแฟชั่นก็ควรจะต้องสวมใส่แล้วสบายได้ด้วย!
View this post on Instagram
หากจะบอกว่ามันเริ่มต้นเมื่อตอนปี 2014 - 15 ก็คงไม่ผิด กับการกำเนิดของแบรนด์ Vetements โดยมี Demna Gvasalia ผู้เป็นทั้งดีไซน์เนอร์ และผู้ร่วมก่อตั้ง (เขาเพิ่งประกาศการก้าวลงจากการบริหารไปเมื่อเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา เพื่อไปโฟกัสงานที่แบรนด์ Balenciaga ซึ่งก็เพิ่งประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อต้นปี 2020 ว่าแบรนด์จะเปิดไลน์ Haute Couture ขึ้นมาใหม่ - - รอดูได้เลย น่าจะแซ่บแน่นอน) แบรนด์นี้นำเสนอแฟชั่น Luxury Streetwearที่ค่อนข้างช็อคโลก สวนทุกกระแสแฟชั่น ที่ตลอดมาความเข้าใจในมวลรวมของเวทีแฟชั่นโลกส่วนมาก คือการนำเสนอความสวยงาม หรูหรา และอลังการ ทั้งจากงานดีไซน์ งานฝีมือและดีเทลต่าง ๆ ตามแบบฉบับของแต่ละเฮ้าส์ ตามตำนานแต่ละแบรนด์
View this post on Instagram
View this post on Instagram
Vetements จับเอาเหล่าเสื้อผ้ากึ่งแคชวล กึ่งสปอร์ตมาขึ้นสู่รันเวย์ ใช้เสื้อผ้าธรรมดามาเป็นคีย์พีซหลัก อย่าง ทีเชิ้ต กางเกงกีฬา ฮู้ดดี้ไหล่ตั้ง โอเว่อร์ไซส์โค้ต โอเว่อร์ไซส์แจ๊คเก็ต ที่มีไหล่กว้าง และแขนยาวผิดปกติ แต่หลักการที่เขาว่าก็คือ เสื้อผ้าพวกนี้สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน และหยิบใช้ได้บ่อยกว่าชุดราตรีปักเลื่อมบลา ๆ ๆ หรือชุดเทเลอร์หรูจากรันเวย์ต่าง ๆ และอีกสิ่งที่ทำให้เป็นกระแส ก็คือการที่แบรนด์มักไปคอลแลปกับแบรนด์อื่น ๆ ทำให้มีไอเทมพิเศษ (อย่างเช่นทีเชิ้ตที่เคยทำกับ DHL หรือทำสนีกเกอร์กับ Reebok) ที่สามารถดึงดูด และมัดใจลูกค้าชาวแฟชั่นมากขึ้น - - ซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ซีซั่นแบรนด์ Vetements กับสไตล์แปลกใหม่ โนสน โนแคร์ นี้ก็ปั่นป่วนวงการแฟชั่นต่อเนื่องมาอย่างไม่หยุดหย่อนจนถึงตอนนี้
View this post on Instagram
View this post on Instagram
นอกจากนั้น Demna Gvasalia ยังรับตำแหน่งครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ ให้กับแบรนด์ Balenciaga มาตั้งแต่มีนาคม 2015 และปล่อยคอลเลคชั่นแรกให้กับแบรนด์ในปี 2016 ซึ่งผลงานของเขายิ่งโหมให้กระแส Luxury Streetwear เหล่านี้ลุกลามขึ้นไปอีกเมื่อนำเสนอผ่านแบรนด์ดังอย่างบาเลนเซียก้า ถึงแม้ว่าในเนื้องานนั้นจะยังอิงรากฐานของแบรนด์อยู่จากคีย์พีซ งานฝีมือ และดีเทลต่าง ๆ แต่ก็สามารถเรียกได้ว่าแบรนด์โฟกัสไปในหนทางแห่งความโมเดิร์น สตรีทลักซัวรี่ - - แปลกแหวกแนวไม่แคร์เวิลด์เช่นกัน และก็แน่นอนว่าผู้คนก็หันมาสนใจ และบ้าคลั่งกับเทรนด์นี้กันอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าความ Off-Trend ก็กลายเป็นเทรนด์เสียเอง
View this post on Instagram
View this post on Instagram
มองไปทางเฮ้าส์ลักซัวรี่สุดหรูอายุเป็นร้อยปีอย่าง Louis Vuitton กันบ้าง กับการดึงเอา Virgil Abloh เจ้าของและดีไซเนอร์ แบรนด์ Off-White ที่ยืนหนึ่งเรื่องสายสตรีทลักซัวรี่มาตั้งแต่ปี 2012 (ถึงแม้ว่าล่าสุดเขาเพิ่งได้ออกมาประกาศว่าความสตรีทกำลังจะตายลงแล้ว แต่เราคิดว่ามันก็คงยังมีต่อเนื่องกับแบรนด์อื่น หรือดีไซเนอร์คนอื่นอยู่ดี) มาเป็นครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ให้เสื้อผ้าผู้ชายของแบรนด์ เมื่อมีนาคม 2018 ทางเลือกนี้ก็ส่งผลให้แบรนด์มีลูกค้าในวงกว้างมากขึ้นไปอีก สินค้าที่เขาออกแบบเรียกได้ว่ากลายเป็นไอเทม Unisex อย่างเช่นการออกแบบฮู้ดดี้บุนวมโมโนแกรมของคอลเลคชั่นหน้าหนาวปี 2019 ถ้าเป็นสมัยก่อนการรับรู้จะบอกเราว่า นี่มันเสื้อของผู้ชาย! - - แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นไอเทมที่ผู้หญิงก็คิดว่าอยากใส่ได้เหมือนกัน ซึ่งก็มีสาวคนดังหลายคนใส่ให้เราได้เห็น
View this post on Instagram
แต่คนบางกลุ่มก็ต่อต้านสไตล์ของ Abloh หาว่างานออกแบบของเขานั้นไม่ได้เรื่อง ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของ Off-White ก็ดูช่างน่าขัน ราคากับคุณภาพสวนทางกัน หรืออย่างผลงานที่ Louis Vuitton ก็มีคนบอกว่าเขาทำให้ความหรูหราของแบรนด์นั้นดรอปลง - - แต่คำวิจารณ์เหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้ความนิยมของสินค้าจากแบรนด์ทั้งสองลดลงเลย เพราะยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ชื่นชอบของเหล่านี้ จากความแปลก ความใหม่ คงเหมือนได้สัมผัสกับความลักซัวรี่ในมุมที่ต่างออกไปจากเดิม อย่างกับทางวิตตองเห็นได้ชัดขึ้นจากทั้งเสื้อผ้า และกระเป๋า ที่เป็นกระแสว่อนโลกโซเชี่ยล อาจเป็นเพราะเหตุที่เราบอกไปว่า ไอเทมพวกนั้นมันใช้ได้กับคนทุกเพศทุกสไตล์ - - แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าเพราะตอนนี้ผู้คนคลั่งความสตรีท หรือชื่นชอบผลงานของเขากันแน่ แต่ที่แน่ ๆ มันขายได้ และคงทำกำไรให้กับแบรนด์ไม่น้อย
และหลังจากที่คอลเลคชั่นผู้ชายล่าสุดของวิตตองเดินโชว์ไปแล้วที่ปารีสแฟชั่นวีค 2020 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเขาปรับงานดีไซน์ของวิตตองให้กลับเข้าสู่โหมดลักซัวรี่เทเลอร์ เรียบหรูอันน่าจะเป็นทิศทางในการดีไซน์ของเขากับแบรนด์นี้ต่อไป - - ซึ่งเท่ากับว่าคอลเลคชั่นก่อนหน้านี้ที่เขาปล่อยความสตรีทแบบเต็มรูปแบบลงไป อาจจะกลายเป็นของแรร์มาก ๆ และมีมูลค่าสูงขึ้นในตลาดรีเซลก็เป็นไปได้ ว่าไหม?
View this post on Instagram
View this post on Instagram
ลองมาดูแบรนด์หรูอย่าง Valentino ภายใต้การนำของPierpaolo Piccioli กันบ้าง ที่แน่นอนว่ายังคงความหรูหราแบบกูตูร์เอาไว้ในคอลเลคชั่นของฝั่งผู้หญิง แต่ทางด้านเสื้อผ้าผู้ชาย ก็มีการอีโวไปมากอยู่เหมือนกัน อย่างกับคอลเลคชั่น Fall 2019 ที่ผ่านมา มีการคอลแลปกับ Jun Takahashi ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์สตรีทสายพังก์สัญชาติญี่ปุ่น ที่เป็นหนึ่งในผู้นำแห่งวงวารความสตรีทลักซัวรี่จากแบรนด์ Undercover โดย Takahashi ทำหน้าที่ดูแลออกแบบลายพริ้นท์ ซึ่งถูกนำไปใช้กับเสื้อผ้าในโชว์ Fallของทั้งสองแบรนด์ - - เป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วเหลือเชื่อซึ่ง Piccioli ได้กล่าวถึงเรื่องนี้เอาไว้สั้น ๆ ว่า “It’s a social experiment!”
View this post on Instagram
View this post on Instagram
ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะในคอลเลคชั่นนี้ Piccioli ยังทำการคอลแลป Valentino เข้ากับ Birkenstock แบรนด์รองเท้าแคชวลชื่อดังจากประเทศเยอรมนี ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ทั้งจากผู้คนสายชิลล์ สายมินิมัล สายแฟ สายสปอร์ต และอีกมาก เหมือนเป็นการตอกย้ำการก้าวสู่สนามแข่งแห่งความ Luxury Streetwear เข้าไปอีก - - เป็นใครก็อยากได้รองเท้า Birken ที่มีโลโก้ VLTN จริงไหมล่ะ และสำหรับเรานี่คือการขยับตัวไปอีกก้าวของเฮ้าส์ลักซัวรี่ที่ต้องการส่วนแบ่งการตลาดจากเทรนด์ความสตรีทเช่นกัน
View this post on Instagram
View this post on Instagram
และสุดท้ายเราขอพูดถึง แบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงเก่าแก่ของฝรั่งเศส Nina Ricci ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1932 ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย รวมทั้งผ่านมือดีไซเนอร์มาอีกนับไม่ถ้วน จะให้พูดตรง ๆ ระยะหลังมาเราก็ไม่ค่อยจะได้ยินถึงกระแสนิยมอะไรที่ทำให้เฮ้าส์โด่งดัง หรือเตะตา เท่ากับแบรนด์อื่น ๆ ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน - - ล่าสุดในปี 2019 นี้มีการประกาศแต่งตั้ง ครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ คู่ดูโอ Rushemy Botter และ Lisi Herrebrugh ให้มาดูแลแบรนด์ ทั้งสองมีดีกรีดีไซเนอร์ระดับรางวัลของเวที LVMH Prize และพวกเขาก็ยังร่วมเป็นทั้งครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ และเจ้าของแบรนด์ Botter ร่วมกัน ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าผู้ชายโดดเด่นเรื่องการทำทรงโอเว่อร์ไซส์ และสอดแทรกอารมณ์ขัน และสิ่งต่าง ๆ ลงไปในงานดีไซน์ อีกทั้งยังมีงานคอลแลปกับแบรนด์ดังอีกมากมาย - - และเราก็นับว่า Botter เป็นอีกแบรนด์ที่มีกลิ่นอายและดีเทลของความสตรีทลักซัวรี่อยู่สูง และนี่น่าจะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้บริหารของ Nina Ricci เลือกสองดีไซเนอร์มาชุบชีวิตให้กับแบรนด์อีกครั้ง
View this post on Instagram
View this post on Instagram
View this post on Instagram
ทั้งสองเดบิวต์คอลเลคชั่นไปเมื่อ Fall 2019 ที่ผ่านมา จากคู่ดูโอที่ไม่เคยทำเสื้อผ้าผู้หญิง แต่เมื่อปล่อยของออกมากลับได้รับเสียงตอบรับดีมาก ๆ ทั้งการนำเสนอโครงสร้างแปลกตา ลูกเล่นแปลกใหม่ สีสันสวยงาม รวมถึงมีความยังเกอร์ลงมาก ที่ทำให้ผู้คนตื่นตากับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับแบรนด์เก่าแก่อย่าง Nina Ricci จนมีคำถามตามมาอีกมากว่า แบรนด์จะมีโปรเจ็กท์ทำเสื้อผ้าผู้ชายหรือไม่ อย่างไร เราก็คงทำได้แต่รอลุ้นไปในซีซั่นหน้า ๆ ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร - - และนี่ก็น่าจะเป็นหนึ่งอีกตัวอย่างของเฮ้าส์ลักซัวรี่ กับการกระโจนเข้าสู่หนทางของ Luxury Streetwear
View this post on Instagram
View this post on Instagram
ความ Off-Trend กลายเป็นอินเทรนด์
เสื้อผ้าแคชวลกระโดดไปอยู่บนรันเวย์
ความสตรีทเข้าครอบงำเฮ้าส์หรู
อะไรก็เกิดขึ้นได้ ในโลกแฟชั่น - - ตามให้ทัน และสนุกไปกับมัน ก็พอแล้ว!