ASTON MARTIN

• DB11

BY Duty editor

  • 07 กรกฏาคม 2559
  • 4,921

DB11 ยนตรกรรมรุ่นแรกในซีรีส์ Second Century และเป็นทายาทรุ่นใหม่ไฟแรงของตระกูล DB อันเลื่องชื่อ มาพร้อมขุมพลังแห่ง GT สปอร์ตตามแบบฉบับของ Aston Martin

 

DB11 โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่ล่าสุดอันเป็นเอกลักษณ์ และระบบพลศาสตร์ระดับแนวหน้า ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 5.2 ลิตร รุ่นล่าสุดจาก Aston Martin ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเชื่อมเป็นชิ้นเดียวที่เบาขึ้น แกร่งขึ้น และประหยัดพื้นที่มากขึ้น DB11 จึงเป็นยนตรกรรม DB อันเปี่ยมด้วยสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และความปราดเปรียวมากที่สุดเท่าที่ Aston Martin เคยมีมา และนี่คือยนตรกรรมชั้นนำรุ่นล่าสุดจาก Aston Martin นับตั้งแต่มีการเปิดตัว DB9 เมื่อปี 2003

 

DB11 คือภาพสะท้อนดีไซน์ยุคใหม่ของ Aston Martin และหลักชัยล่าสุดแห่งการเดินทางเพื่อตามหาสุนทรียะอันตราตรึง ซึ่งได้เคยให้กำเนิดยนตรกรรมอันเป็นเอกลักษณ์มาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น DB2/4, DB5 และล่าสุด DB10 ที่ได้รับการสร้างสรรค์ให้เป็นพาหนะคู่ใจของ James Bond โดยเฉพาะ DB11 ผสานรูปทรงกับฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ได้อย่างลงตัวภายใต้ดีไซน์รูปแบบใหม่อันเป็นเอกลักษณ์

โดยเฉพาะฝากระโปรงหน้าแบบบานพับด้านหน้าดีไซน์เปลือกหอย ไฟหน้า LED อันโดดเด่น และกระจังหน้าที่ตอกย้ำภาพลักษณ์แห่ง Aston Martin อย่างชัดเจน สะกดทุกสายตาด้วยแผ่นหลังคารถที่เดินแนวจากเสา A ถึงเสา C อย่างพลิ้วไหวไม่สะดุด ต่อไปถึงท้ายรถกับฝากระโปรงท้ายแบบโค้งที่สอดประสานเข้ากับไฟท้ายอันโดดเด่นได้อย่างกลมกลืน ให้ภาพลักษณ์แบบใหม่ที่ไม่ซ้ำแบบใคร

 

 

พลิกโฉมดีไซน์ด้วยระบบแอโรไดนามิกส์นวัตกรรมใหม่ที่จัดการกระแสลมทั้งจากด้านบนและภายในตัวถังรถได้อย่างชาญฉลาดเพื่อการขับขี่อย่างมีเสถียรภาพ โดยยังคงความงดงามของ DB11 ไว้อย่างครบถ้วน ลดระดับชุดยกตัวถังด้านหน้าด้วย Curlicue รูปทรงคล้ายเหงือกปลา ซึ่งทำหน้าที่ปล่อยอากาศแรงดันสูงจากด้านในบังโคลนล้อมาตามช่องที่ซ่อนไว้ภายในแผ่นด้านข้างตัวรถดีไซน์ใหม่

และลดระดับชุดยกตัวถังด้านหลังลงด้วย Aston Martin AeroBladeTM สปอยเลอร์ทำหน้าที่เสมือนที่รับอากาศจากช่องจ่ายลมอัจฉริยะที่ฐานเสา C ทุกต้น โดยระบบจะจ่ายลมผ่านตัวถังรถก่อนที่จะปล่อยเป็นไอพ่นออกจากช่องในฝากระโปรงท้าย

 

 

      

หัวใจที่สูบฉีด DB11 ให้ขับเคลื่อนนั้นอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้าเช่นเดียวกับยนตรกรรม Aston Martin ทุกรุ่น แต่สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ได้แก่ เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 5.2 ลิตร ผลงานออกแบบของ Aston Martin ที่มาพร้อมขุมพลัง 608PS1 (600BHP1) และแรงบิด 700Nm1 จึงขับเคลื่อนให้ DB11 เป็นยนตรกรรม DB ที่เปี่ยมพลังมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ทั้งยังปราดเปรียวและรวดเร็วอย่างเหนือชั้นด้วยความเร็วสูงสุดถึง 200 ไมล์/ชม.1 และเร่งความเร็วจาก 0 เป็น 62 ไมล์/ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที1 ผสานสมรรถนะจากระบบสั่งการอัจฉริยะและเทคโนโลยีหยุด-เดินเครื่องอัตโนมัติเพื่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากโครงสร้างตัวถังแบบใหม่และขุมพลังเต็มเปี่ยมจากเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V12 รุ่นใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งแชสซี ระบบกันสะเทือน ระบบบังคับเลี้ยว และระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ DB11 ล้วนออกแบบขึ้นใหม่เพื่อให้รองรับเทคโนโลยีรุ่นใหม่โดยเฉพาะโหมดขับเคลื่อนที่เลือกได้หลายรูปแบบ - GT, Sport และ Sport Plus - ช่วยกระตุ้นการทำงานของเครื่องยนต์, เกียร์ ZF อัตโนมัติความเร็ว 8 ระดับ, พวงมาลัยเพาเวอร์ระบบไฟฟ้ารุ่นใหม่ และระบบ Torque Vectoring ให้การตอบสนองได้อย่างฉับไว ด้วยการเบรกพร้อมกับเพิ่มความมั่นคงของระบบกันสะเทือนแบบปรับระดับได้ เพื่อสัมผัสแห่งความคล่องตัวอันเหนือกว่า ผลที่ได้คือประสบการณ์การขับขี่ที่ผสานความสบายในการขับอย่างเหนือชั้นเข้ากับความคล่องตัวตามแบบฉบับของรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว เพื่อสมรรถนะแห่งความปราดเปรียวอันไร้ขีดจำกัด

 

 

DB11 คือยนตรกรรมตัวจริงแห่งศตวรรษที่ 21 จาก Aston Martin ผสานเทคโนโลยีล่าสุดที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรด้านเทคนิคอย่าง Daimler AG กับคุณภาพและงานช่างฝีมือชั้นเลิศเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน แผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่บนหน้าจอ TFT LCD สี 12 นิ้ว แสดงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรถได้อย่างชัดเจน พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์บนหน้าจอ TFT 8 นิ้ว ที่ติดตั้งไว้ตรงกลางและพัฒนาขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ระบบนำทางด้วยดาวเทียมและระบบเครื่องเสียงควบคุมด้วยปุ่มหมุนที่ใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทัชแพด (อุปกรณ์เสริม) ที่มีฟังก์ชั่นจดจำอักขระ รองรับการสั่งการแบบมัลติทัชและการสั่งการด้วยท่าทาง ให้ผู้ใช้สัมผัสได้ถึงความมีประสิทธิภาพ พลังเสียง และความง่ายในการใช้งานอันเหนือชั้น ใหม่ล่าสุดกับระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติและกล้องแบบ Bird Eye View 360 องศา เพื่อการควบคุมรถอย่างปลอดภัยที่ระดับความเร็วต่ำ สั่งการผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์ของรถ

  

ช่องประตูกว้างขึ้น เพิ่มพื้นที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะส่วนศีรษะและที่วางเท้าด้านหลัง มีจุดยึด ISOFIX สำหรับที่นั่งเด็กสองชุดบนเบาะหลัง และช่องเก็บสัมภาระที่สามารถใส่กระเป๋าโฮลด์ออล (Holdall) ใบใหญ่ได้สองใบกับกระเป๋าแครี่ออน (Carry-on) ได้อีกหนึ่งใบ ทั้งหมดนี้ทำให้ DB11 เป็นยนตรกรรม Grand Tourer อย่างแท้จริง

ด้วยชุดสีสันและออปชั่นการตกแต่งรายละเอียดต่างๆ ที่มีมากมาย จึงสามารถตกแต่งภายในให้เหมาะกับสไตล์ความชอบส่วนตัวของขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่โทนสีเรียบขรึมที่จับคู่กันอย่างพิถีพิถัน ไปจนถึงสีสันสดใสที่ตัดกันอย่างฉูดฉาด เราพร้อมตอบทุกโจทย์โดยไม่มีข้อจำกัด เติมความงามอันซับซ้อนให้น่าค้นหาด้วยลวดลายแบบ Nexus และการเจาะตกแต่งแบบ Celestial พร้อมสร้างบรรยากาศแห่งความรื่นรมย์ที่มองเห็นและสัมผัสได้ด้วยเครื่องหนังสุดหรูสลักลายอันประณีตบรรจง

 

 

DB11 ไม่ได้เป็นเพียงสุดยอดยนตรกรรมในระยะหลังของ Aston Martin เท่านั้น แต่ยังเป็นสุดยอดยนตรกรรมในประวัติศาสตร์ตลอด 103 ปี นี่คือผู้ทวงบัลลังก์ผู้นำแบรนด์รถหรูให้กับ Aston Martin อย่างแท้จริง