Royal Enfield • Super Meteor 650

 Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง (250cc - 750cc) เปิดตัวครูเซอร์รุ่นใหม่ระดับพรีเมี่ยมครั้งแรกในประเทศไทย ‘Super Meteor 650’

โรยัล เอ็นฟีลด์ เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก โดยได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 และมีการเติบโตล่าสุด 150% ในตลาดรถจักรยานยนต์ APAC ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้มีไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่หลากหลาย โดยเฉพาะ Community กลุ่มคนรักมอเตอร์ไซค์ทั่วโลก ในช่วงปี 2022-2023 แบรนด์ทำยอดขายรถมอเตอร์ไซค์สูงสุดเท่าที่เคยมีมา กว่า 9.3 ล้านคันทั่วโลกเป็นครั้งแรก โดยแบรนด์ได้รับส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประวัติศาสตร์ในกลุ่มรถจักรยานยนต์โดยรวม

 

 

สุดยอดรถจักรยานยนต์ระดับพรีเมียมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Royal Enfield Super Meteor 650 คือรถครูเซอร์ที่รวมการควบคุมฟังก์ชั่นให้เข้ากับศาสตร์แห่งการขับขี่ที่ผ่อนคลาย ให้ความมั่นคงบนท้องถนน พร้อมเพลิดเพลินในการขับขี่ได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงทอดยาวหรือจะเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวที่สุดที่ต้องการการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์ของ Super Meteor 650 ก็มีความคล่องตัวและนุ่มนวล ตอบสนองทุกแรงบิด และโดยเฉพาะสไตล์เรโทรสุดเท่ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ของโรยัล เอ็นฟีลด์ ที่จะช่วยให้การขับขี่น่าจดจำยิ่งขึ้น

 

 

เฟรมและสวิงอาร์มที่สร้างขึ้นที่ศูนย์เทคโนโลยีแห่งสหราชอาณาจักรร่วมกับ Harris Performance เป็นชิ้นส่วนที่ออกแบบและผลิตใหม่ทั้งหมด มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อความมั่นคงในความเร็วสูงพร้อมรับความคล่องตัว ชิ้นส่วนถูกสร้างจากเหล็กที่มีการตีขึ้นรูปที่เหมาะสม มีการหล่อ การกดและการอัดขึ้นรูป แชสซีมีการรวมการยึดหัวกระบอกสูบใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง โช้กแบบกลับหัว USD  มีระยะยุบ 120 มม. และโช้กหลังระดับพรีเมียมพร้อมพรีโหลด 5 สเต็ปและระยะยุบตัว 101 มม. ช่วยเสริมเฟรมที่ออกแบบมาใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ Super Meteor 650  มีการทรงตัวได้อย่างดี ปลอดภัยเมื่อขับขี่บนถนนโล่ง รวมถึงการบังคับเลี้ยวหนักๆ ตลอดทุกทางโค้ง

 

 

มาพร้อมรูปลักษณ์ครูเซอร์พันธุ์แท้ ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งที่มีช่วงสะโพกที่กว้างและเอวที่แคบ มีระยะการวางเท้ายื่นไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ ตำแหน่งแฮนด์บาร์ที่ยกขึ้นและกว้างขึ้น ถังน้ำมันขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มระยะการขับขี่ มาพร้อมด้วยยางขอบล้ออัลลอยด์ด้านหลัง 16 นิ้วและด้านหน้า 19 นิ้ว ช่วยสร้างความมั่นใจในขณะขับขี่บนทุกท้องถนน

ในส่วนของมุมมองและการควบคุมของผู้ขับขี่ แผงหน้าปัดของมาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อกเข้ากับการทำงานของจอ LCD แจ้งระบบต่างๆ เช่น รอบเครื่องยนต์ ไฟบอกเกียร์ มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง นาฬิกา และมาตรวัดระยะทาง ก้านคลัตช์และเบรกแบบปรับได้ให้การทำงานที่ราบรื่นพร้อมกับกลิ่นอายสัมผัสแบบย้อนยุค ด้ามจับรูปทรงกระบอกที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ผสานรวมโลโก้ Royal Enfield สวิตช์ลูกบาศก์อลูมิเนียมชุบใหม่ทั้งหมด สวิตช์หมุนที่ไม่เหมือนใคร ทั้งหมดเป็นการวางองค์ประกอบการออกแบบระดับพรีเมียมไว้ในมือของผู้ขับขี่

 

 

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์นำทางแบบTurn-By-Turn  ที่เป็นที่รู้จักของ Royal Enfield ในชื่อ Royal Enfield Tripper ซึ่งเชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ผ่าน Bluetooth มีช่องเสียบ USB แบบแยกส่วนอยู่ใต้แผงด้านซ้าย ไฟหน้า LED ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันถ่ายทอดเสน่ห์แบบยุคเก่า ขณะที่ยังคงคุณประโยชน์ทั้งหมดของเทคโนโลยี LED  และยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ รวมถึงกลุ่มเครื่องแต่งกาย เสื้อยืด Super Meteor หมวกกันน็อค กระเป๋า และอุปกรณ์เสริมแต่งรถอีกมากมาย

 

 

โรยัล เอ็นฟีลด์ พร้อมเปิดตัวครูเซอร์สายพันธุ์แท้ที่ทุกคนรอคอย โดยราคาของ Super Meteor 650 เริ่มต้นที่ 269,000 บาท สำหรับรุ่น Astral, ราคา 274,000 บาท สำหรับรุ่น Interstellar และ ราคา 284,000 บาท สำหรับ Celestial ตัวท๊อปสุดที่มาพร้อมกับชิลด์หน้า สีทูโทน และพนักพิงหลังสำหรับผู้โดยสาร

#SuperMeteor650 #PureCruising #PureMotorcycling #RoyalEnfield