JAGUAR • F-TYPE

BY Editor One

  • 19 ธันวาคม 2560
  • 5,884

จากัวร์ เอฟ-ไทป์ ใหม่ (NEW JAGUAR F-TYPE) ขีดสุดของการประสานกันระหว่างงานศิลปะและเทคโนโลยี ปรับโฉมภายนอกใหม่หมด เพิ่มรุ่นสปอร์ต 400 แรงม้าและรุ่นอาร์ไดนามิคกับขุมพลังเครื่องยนต์ 340 แรงม้า พร้อมระบบอินโฟเทนเม้นท์ระดับเวิลด์คลาส Touch Pro ที่ตอบสนองทุกข้อมูลความบันเทิงได้รวดเร็วทันใจ อีกทั้งโดดเด่นด้วยกันชนและไฟหน้าแบบ Full-LED เบาะที่นั่งได้รับการออกแบบพัฒนาใหม่ให้เพรียวบางกว่าเดิมแต่ยังคงความสบายเอาไว้ทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถ ลดลงไปอีกกว่า 8 กิโลกรัม

 

จากัวร์ ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานในประสิทธิภาพและสมรรถนะของรถ โดยรถสปอร์ตในตระกูล F-TYPE ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงโฉมใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมระบบอินโฟเทนเม้นท์ที่ล้ำสมัย ด้วยความสมดุลของการออกแบบรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมกับสมรรถนะที่น่าทึ่งและการขับเคลื่อนอันทรงพลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะทำให้ F-TYPE มีความแตกต่างจากรถยนต์ประเภทเดียวกันอย่างโดดเด่น รวมถึงรถยนต์ที่มีโครงสร้างแบบคูเป้ด้วย

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นในทุกรุ่นล่าสุดของ F-TYPE ยังมาพร้อมระบบอินโฟร์เทนเม้นท์ Touch Pro ที่ตอบสนองคำสั่งได้อย่างรวดเร็วด้วยรูปแบบการใช้งานง่ายแบบแทบเลตที่คุ้นเคย พร้อมด้วยระบบนำทางอัจฉริยะที่แชร์ข้อมูลออนไลน์แสดงให้เห็นถึงสภาพการจราจร เวลา ปัจจุบันขณะขับขี่ รวมถึงรายงานสภาพอากาศในเวลานั้นเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทุกปัจจัยภายนอกตลอดการเดินทางได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

รางวัลจากการออกแบบที่ F-TYPE ได้รับไม่ได้แสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่สะดุดตาเท่านั้น หากแต่ความโดดเด่นของไฟหน้าแบบ Full LED และกันชนด้านหน้า ยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่อีกด้วย

 

 

 

 

เพื่อเป็นการเปิดตัวโฉมใหม่ในตระกูล F-TYPE  จากัวร์ ได้พัฒนาโมเดลพิเศษ 400 SPORT ขุมพลัง 400 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V6 ซุปเปอร์ชาร์จ ความจุ 3ลิตร ผ่านการพัฒนาปรับปรุงสมรรถนะ ทั้งแชสซีและระบบเบรก มาพร้อมล้ออัลลอยด์ ขนาด 20นิ้ว สีภายนอกเคลือบด้วยสีเทาซาติน สำหรับออกจำหนายทั่วโลก โดยจะเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายปีละรุ่นเท่านั้น แถบตัวเลขสีเหลืองที่แสดงถึงขุมพลัง 400 แรงม้า

 

ภายใต้ฝากระโปรงหน้าตัดกันกับสีเทาซาตินของตัวรถ ถูกติดไว้ทั้งด้านท้ายและตรงชิ้นส่วนที่แยกออกมาจากกันชนหน้า (Splitter) รวมทั้งใช้สีเหลืองแบบเดียวกันเย็บเส้นตัดขอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร ตัวอักษรแสดงชื่อรุ่น SPORT 400 ถูกปักติดไว้บริเวณคอนโซล กลางพวงมาลัย แผ่นยางปูพื้นและพนักพิงศีรษะ ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเลือกสีในการการตกแต่งภายในได้ คือ สีเงิน สีดำ และ สีขาวเมทัลลิค

 

 

สำหรับ R-Dynamic นับเป็นรุ่นหลักของ F-TYPE ด้วยขุมพลัง 340 แรงม้า รูปลักษณ์ภายนอกโฉบเฉี่ยว ด้วยล้ออัลลอยด์ขนาด 19 และ 20 นิ้ว ดูดุดันด้วยสีดำมันวาวที่เคลือบทับในทุกชิ้นส่วน ทั้งกันชนหน้าชิ้นส่วนที่แยกจากกันชน ฝากระโปรงหน้า จนถึงดิฟฟิวเซอร์หลัง นอกจากนี้ใน F-TYPE แต่ละรุ่นยังเพียบพร้อมไปด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่

 

อาทิ ระบบช่วยจอดกึ่งอัตโนมัติซึ่งถูกออกแบบพัฒนาเพื่อช่วยให้การจอดรถในที่แคบสามารถทำได้รวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น ระบบเซนเซอร์อุลตราโซนิกจะคำนวณวัดความยาวของพื้นที่จอดที่เหมาะสมและประคองพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ  ผู้ขับขี่เพียงแค่กดปุ่มเริ่มต้นระบบช่วยจอด พร้อมควบคุมการถอยหลังและเบรคเท่านั้น ระบบช่วยจอดนี้ยังช่วยกำหนดทิศทางเมื่อเวลาจะเคลื่อนรถออกจากที่จอดอีกด้วย

 

 

หลักสำคัญของการออกแบบF-TYPE รุ่นล่าสุดปี 2018 คือ เน้นสมรรถนะและรูปลักษณ์ภายนอกรวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น การออกแบบภายในที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยเบาะที่นั่งเพรียวบางกว่าเดิม เพิ่มความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้นตลอดจนการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ทำให้สวยงามเร้าใจยิ่งขึ้น ทั้งนี้ F-TYPE 2018 ยังคงเอกลักษณ์ของรถสปอร์ตพันธุ์แท้ไว้อย่างชัดเจนด้วยกระจังหน้ารูปทรงกราฟิค วิศวกรผู้ออกแบบยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับกันชนเพื่อเน้นภาพลักษณ์ของรถสปอร์ตให้เด่นชัดจากหน้าจรดท้าย

 

 

การพัฒนาในการออกแบบของ F-TYPE ไม่ได้คำนึงถึงแค่ฟังก์ชั่นการใช้งาน ความสวยงามและสมรรถนะของรถเท่านั้นแต่ยังคำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วย หลอดไฟ LED มีความสว่างโทนสีและอุณหภูมิอยู่ที่ 5,500-6,000K ใกล้เคียงแสงสว่างจากธรรมชาติในเวลากลางวัน ด้วยคุณภาพที่เพิ่มมากขึ้นของแสงสว่างจากไฟหน้าจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ที่ยาวนานและช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการขับมากขึ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น ระบบการเซนเซอร์ปรับแสงไฟหน้าอัตโนมัติ ทำให้ ไฟหน้า LED ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการขับขี่ในสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างถึง 4 รูปแบบด้วยกัน คือ ถนนในเมือง ชนบท มอเตอร์เวย์ และสภาพอากาศที่เลวร้าย  ส่วนแผงไฟด้านท้ายได้รับการพัฒนาปรับปรุงเช่นเดียวกัน หลอดไฟเรียงตัวกันในแนวนอนตัดกึ่งกลางด้วยไฟวงกลมอันเป็นเอกลักษณ์ของ จากัวร์ E-TYPE แต่เลนส์ครอบมีสีเข้มกว่าเพื่อให้สอดคล้องกับการออกแบบโทนเข้มขรึมของตัวรถ

 

 

การออกแบบภายใน  F-TYPE 2018 เน้นความโปร่งโล่งสะดวกสบายและหรูหรา ยิ่งขึ้น โดยยังคงความสง่างามสไตล์รถสปอร์ตเอาไว้อย่างครบถ้วน โดยวิศวกรผู้ออกแบบของจากัวร์ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุที่เสริมความสวยงามสะดุดตาและกลมกลืนไปในทิศทางเดียวกันทั้งห้องโดยสาร

 

รวมทั้งสมดุลของความหรูหราและประสิทธิภาพในฟังก์ชั่นการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างยอดเยี่ยม สิ่งหนึ่งที่แสดงถึงการพัฒนาปรับปรุงอย่างเด่นชัดในรุ่นนี้ คือ เบาะที่นั่ง เพรียวบางลงแต่ยังคงความเหมาะสมและสะดวกสบายในการใช้งานไว้อย่างดีเยี่ยม รูปทรงที่สวยงามเพรียวบางของเบาะที่นั่ง ช่วยเสริมภาพลักษณ์เทคโนโลยีการออกแบบระดับสูง ของ F-TYPE ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

ความพิเศษของเบาะที่นั่งซึ่งเป็นนวัตกรรมการออกแบบเฉพาะของจากัวร์  คือ โครงของเบาะที่นั่งถูกสร้างขึ้นจากโลหะผสมแมกนีเซียมหล่อขึ้นรูปซึ่งเป็นวัสดุที่ทนทานแข็งแรงมีอัตราส่วนความแข็งแกร่งต่อน้ำหนักที่ยอดเยี่ยม แต่มีน้ำหนักเบาทำให้น้ำหนักรวมของตัวรถลดลงไปมากกว่า 8 กิโลกรัม

 

โครงสร้างของเบาะยังรองรับสรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างเหมาะสม ทั้งด้านหลัง ด้านข้างและส่วนรองรับศีรษะ ช่วยเพิ่มความรู้สึกของความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างคนขับรถกับรถเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น นอกจากนั้น เบาะที่นั่งสามารถปรับเลื่อนไปด้านหลังได้มากกว่าเดิม ถึง 50 มม.และสามารถปรับให้ต่ำลงเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาได้ด้วย

 

 

ทีมวิศวกรออกแบบของจากัวร์ พิถีพิถันในการออกแบบภายในรถยนต์โดยมุ่งมั่นให้ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น F-TYPE แบบดั้งเดิมเอาไว้ ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์และเปลี่ยนเกียร์ในทุกรุ่นจะเคลือบซาตินโครเมียมเงางามคุณภาพสูง ตลอดจนที่จับประตู ช่องระบายอากาศภายในและพวงมาลัย ให้ความรู้สึกหรูหราเหมือนอัญมณี

 

 

F-TYPE 400 SPORT เปิดตัวกับความแรงที่โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ V6 ซุปเปอร์ชาร์จ ที่ถูกปรับขึ้นจาก 380 แรงม้า สู่ 400 แรงม้า หนึ่งรุ่นต่อปีเท่านั้น การออกแบบสไตล์รถสปอร์ตถูกขับเน้นให้เด่นชัดด้วยความขรึมดุดันสีเทาเข้มของชิ้นส่วนที่แยกออกมาจากกันชนหน้า (Splitter) กาบบันไดข้าง/หลัง จนถึงดิฟฟิวเซอร์ แถบป้ายตัวเลขสีเหลืองอันโดดเด่นแสดงตัวตนของ 400 SPORT ตัดกันกับสีเทาซาตินของตัวรถจะถูกติดตั้งอยู่ทั้งด้านหน้าและหลังรวมทั้งใต้ฝากระโปรงรถ ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเลือกสีภายนอกตัวรถ ได้ดังนี้ สีเงิน (Indus Silver) สีดำ (Santorini Black) และ ขาว (Yulong White)

 

 

นอกเหนือจากขุมพลังที่เพิ่มขึ้นแล้ว F-TYPE 400 SPORT ยังเพิ่มสมรรถนะของระบบเบรก ด้วยดิสก์เบรกหน้า 380 มม.และดิสก์เบรกหลัง 376 มม. คาลิปเปอร์เบรกสีดำพร้อมโลโก้ 400 SPORT ล้ออัลลอยด์ขนาด 20 นิ้ว เคลือบทับด้วยสีเทาซาติน และการขับเคลื่อนแบบปรับตั้งค่าได้ ที่ผู้ขับขี่สามารถกำหนดค่าได้ทั้งระบบเกียร์  พวงมาลัย และแดมเปอร์

 

การออกแบบภายในห้องโดยสารเป็นอีกส่วนที่ทีมวิศวกรออกแบบให้ความสำคัญในรายละเอียดด้วยการใช้เส้นสายสีเหลืองเป็นองค์ประกอบเย็บตัดขอบหนังภายใน เบาะที่นั่งถูกออกแบบให้เพรียวบางสามารถปรับได้ถึง 12 รูปแบบ โลโก้ 400 SPORT อยู่บนที่พักศีรษะของเบาะที่นั่งและด้านล่างของก้านพวงมาลัย เข้มขรึมด้วยแผงคอนโซลกลางสีดำตัดกรอบอลูมิเนียมกลมกลืนไปกับการออกแบบที่โดดเด่นดึงดูดสายตาของแป้นเปลี่ยนเกียร์เคลือบผิวด้วยอะลูมิเนียม

 

www.jaguarthailand.com และ www.landroverthailand.com