ARTEK • Mini Story Line

BY KV

  • 16 กันยายน 2564
  • 17,410

artek (อาร์เทค) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่มีต้นกำเนิดมาจากกรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี 1935 โดยคู่รักสถาปนิกอย่าง Alvar Aalto (อัลวาร์ อัลโต) และ Aino Aalto (ไอโน อัลโต) ร่วมด้วยศิลปินและนักสะสมศิลปะ MaireGullichsen (ไมรา กูลิคเชน) และนักประวัติศาสตร์ศิลปะ Nils-GustavHahl (นิลส์-กุสตาฟ ฮาห์ล) ด้วยจุดมุ่งหมายที่ต้องการรวมเอาโลกโมเดิร์นและโลกของศิลปะเข้าไว้ด้วยกัน นำเสนอผ่านเฟอร์นิเจอร์รูปแบบใหม่จากวัสดุคุณภาพและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมาะสม

 

 

ที่มาของชื่อ “artek” (อาร์เทค) คือการผนวกกันของ “ศิลปะ” (Art) และ “เทคโนโลยี” (Technology) ตามที่ผู้ก่อตั้งทั้ง 4 คนตั้งใจที่จะหลอมรวมองค์ประกอบทั้งสองด้านนี้เข้าด้วยกัน และ Alvar Aalto หนึ่งในผู้ก่อตั้งยังเป็นนักออกแบบคนแรก ๆ ของยุคที่ก้าวออกจากการออกแบบที่คำนึงเพียงประโยชน์ใช้สอย เขามักสนุกไปกับการมองหาวัสดุใหม่ ๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็นสถาปนิกในยุคโมเดิร์นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่ง เริ่มตั้งแต่ใช้ไม้ลามิเนตที่ถือว่าเป็นวัสดุค่อนข้างแปลกใหม่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1920 ด้วยการบิดให้โค้งงอและขึ้นรูปให้มีรูปลักษณ์แบบงานประติมากรรม

 

 

จนมาถึงปี 1932 เขาได้ออกแบบเก้าอี้ “Paimio” (ไพมิโอ) สำหรับโรงพยาบาลผู้ป่วยวัณโรคที่เมืองไพมิโอ ประเทศฟินแลนด์ และในปี 1933 ยังได้ออกแบบเก้าอี้ “Stool60” (สตูลซิกส์ตี้) ที่กลายเป็นตำนานแห่งการออกแบบในปัจจุบัน ความชื่นชอบไม้เป็นวัสดุหลักของอัลวาร์ อัลโต กลายเป็นคอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบเมื่อ artek ก่อตั้งขึ้น

และนำไปสู่การนำไม้อัดมาใช้ในรูปแบบต่างๆ เพื่อผสมความรู้สึกอบอุ่นน่าสัมผัสแบบไม้ เข้ากับความงามสไตล์โมเดิร์นที่ดูล้ำสมัย อีกทั้งยังช่วยสร้างสไตล์ที่ชัดเจนของ artek นำไปสู่การพัฒนาออกแบบชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ “L-leg” (ขาตัวแอล) ที่แรกเริ่มออกแบบมาเพื่อ “Stool60” ที่กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ และส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นต่างๆ ของแบรนด์มากกว่า 50 ชนิด ตั้งแต่เก้าอี้ไปจนถึงโต๊ะแบบต่าง ๆ

 

 

 

และนับตั้งแต่ปี 1935 เป็นต้นมา แค่เก้าอี้แบบสตูลอย่างเดียวถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 500,000 ชิ้นทั่วโลก และความนิยมของแบรนด์ไม่มีทีท่าว่าจะจางหาย จนเกิดเป็นร้านแรกของ artek ขึ้นในปี 1936 จัดแสดงงานออกแบบที่แตกต่างไม่เหมือนใครของ Alvar Aalto และในร้านยังจัดแสดงงานดีไซน์ใหม่ระดับโลกมากมายที่มาสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้ามาเยี่ยมชม

ทุกวันนี้กลุ่มสินค้าของ artek ประกอบไปด้วยสินค้าดีไซน์คลาสสิคโดยฝีมือของนักออกแบบชั้นนำชาวฟินแลนด์ รวมไปถึงนักออกแบบร่วมสมัยชั้นนำอีกมากมาย ครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์ โคมไฟ สิ่งทอ และของตกแต่งบ้าน ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการผสมผสานกระบวนการผลิตที่ทันสมัยเข้ากับงานฝีมือชั้นเลิศ ที่ยังคงวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Alvar Aalto ไว้อย่างครบถ้วน โดยสินค้าส่วนใหญ่ของอาร์เทคผลิตที่เมืองเตอร์กู ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งเป็นฐานการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่สำคัญของอาร์เทคมาตั้งแต่แรกเริ่ม

 

ซ้าย - ชิ้นงาน ที ทรอลลีย์ 900 ในอดีต ,  ขวา - เก้าอี้โดมุสในอดีต

 

สำหรับชิ้นงานที่หากใครเป็นแฟน artek ต้องรู้จัก นั้นมีมากมาย อาทิ 

Paimio

เก้าอี้อาร์มแชร์ที่ถูกออกแบบขึ้นในปี 1932 เพื่อใช้งานในโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยวัณโรค Paimio Sanatorium ซึ่ง Alvar Aalto เป็นผู้ออกแบบอาคารแห่งนี้เองอีกด้วย จุดเด่นของเก้าอี้ตัวนี้อยู่ที่โครงสร้างซึ่งทำจากไม้อัดและไม้ลามิเนต เพื่อช่วยทำให้ผู้ป่วยรู้สึกถึงความอบอุ่น และช่วยให้ผู้ป่วยหายใจสะดวกขึ้นด้วย

 

 

L-Leg

เก้าอี้ L-Leg ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร เป็นไม้เนื้อแข็งขึ้นรูปที่ถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์สำหรับแบรนด์กว่า 50 ชนิด ช่วยสร้างเอกลักษณ์ที่น่าจดจำให้กับแบรนด์ และในขณะเดียวกันก็ทำให้ดีไซน์แต่ละแบบสามารถนำไปผลิตเชิงอุตสาหกรรมเพื่อส่งออกได้คราวละมากๆ อย่างสะดวก

 

 

Tea Trolley 900

ที ทรอลลีย์ 900 ถูกจัดแสดงครั้งแรกในงานเวิลด์เอ็กซ์โปปารีสเมื่อปี 1937 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการดื่มชาของชาวอังกฤษและงานไม้แบบญี่ปุ่นที่ผสานเสน่ห์ของกระเบื้องและงานจักสานในงานไม้ขึ้นรูปโค้งอันเป็นเอกลักษณ์ของ Alvar Aalto  

 

 

Stool 60

เก้าอี้ สตูล ซิกส์ตี้ อาจจะดูเหมือนเก้าอี้เรียบง่ายทั่วไป แต่นี่คือดีไซน์ขายดีของ artek ที่เป็นที่จดจำไปทั่วโลก ออกแบบขึ้นในปี 1933 เป็นตัวที่มีการเลียนแบบค่อนข้างเยอะ แต่วัสดุของจริงเป็นบีชแท้ ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งรูปทรงที่มีสามขาทำให้สามารถวางซ้อนกันได้ ทำให้สะดวกต่อการจัดเก็บ และการนำมาวางซ้อนกันยังเกิดเป็นโครงสร้างที่สวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งเก้าอี้ที่ยังได้รับความนิยม และมีงานคอลลาบอเรชั่นออกมาเรื่อยๆ กับศิลปินอย่าง บาร์บาร่า ครูเกอร์ (BarbaraKruger) และ จอห์น บูธ (JohnBooth) อีกด้วย

 

 

Domus

เก้าอี้โดมุส ออกแบบโดย Ilmari Tapiovaara (อิลมารี ทาปิโอวารา) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์สำหรับหอพักนักศึกษาโดมุสอะคาเดมิค (Domus Academica) ในเฮลซิงกิ และกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ฮิตไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเพราะความนั่งสบาย และมีที่เท้าแขนให้ผู้นั่งสามารถเลื่อนเก้าอี้ไปชิดกับโต๊ะเขียนหนังสือได้มากขึ้น

 

 

Rope

เก้าอี้โร้ปคอลเลคชั่นที่เป็นหนึ่งเดียวกับดีเอ็นเอของ artek ออกแบบโดยโรนัน แอนด์ เออร์วัน บูรูเลค (Ronan & Erwan Bouroullec) ที่นำเสนอการใช้วัสดุแบบใหม่ให้กับแบรนด์ ขับเคลื่อนภาษาของการดีไซน์สไตล์artek อย่างละเมียดละไม แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงรากเหง้าแห่งการคิดนอกกรอบของแบรนด์เอาไว้

 

 

Karuselli Lounge Chair

แตกต่างอย่างมีสไตล์และความสะดวกสบายที่แสนพิเศษคือคำนิยามของ เก้าอี้เลานจ์ Karuselli (คารุสซาลี) ที่ออกแบบโดยนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชาวฟินแลนด์ ยูโจ คูคคาปุโระ (Yrjö Kukkapuro) ผู้ที่ให้ความสนใจและใส่ใจเป็นพิเศษกับเรื่องของความสะดวกสบายในการนั่งที่มาควบคู่กับฟังก์ชั่นในการใช้งาน อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ รวมไปถึงรูปแบบการนั่งที่เป็นธรรมชาติ โดยได้แรงบันดาลใจจากการปั้นเก้าอี้หิมะโดยบังเอิญขณะออกไปเล่นข้างนอกกับลูกสาวในฤดูหนาว ซึ่งเขาใช้ระยะเวลาหลายปีในการทดลองสร้างต้นแบบเก้าอี้ขึ้นมารวมถึงคิดค้นและพัฒนาเพื่อให้ได้มิติที่สมบูรณ์แบบที่สุดจนกลายเป็นเก้าอี้ไอคอนิคที่โดดเด่นด้วยสไตล์และความสบายเป็นพิเศษ ในช่วงปี 1964

 

 

แบรนด์artekยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืนและวิถีการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมมาตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ และริเริ่มโครงการ 2nd Cycle ในปี 2006 เพื่อนำสินค้าของอาร์เทคที่พบเจอในตลาดนัด ร้านขายของมือสอง และโรงเรียนเก่ามาจำหน่ายอีกครั้ง เพื่อต่อชีวิตให้กับงานดีไซน์ และสนับสนุนวิถีบริโภคนิยมที่ใส่ใจความยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันแบรนด์ artek ได้ถูกซื้อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังของสวิสเซอร์แลนด์อย่าง Vitra

  

 

 

พบกับเฟอร์นิเจอร์คอลเลกชั่นใหม่ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมซอยสมคิด ช่วงนี้เปิดทุกวันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์ - วันพุธ) เวลา 10.00-17.00 น. โทร. 02-015-4164 อีกทั้งยังสามารถช้อปออนไลน์ผ่านทาง Line Official : @norse_republicsโดยคลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.norserepublics.com และ Instagram : @norse_republics