5 Recommended Headphones

มีหลากหลายช่วงเวลาที่คุณอาจจะจำเป็นต้องแยกตัวเองมาอยู่ในโลกส่วนตัวทั้งที่รอบๆตัวมีคนรายล้อมอยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร “หูฟัง” คือสิ่งที่พวกคุณหลบหลีกจากผู้คนได้ดีที่สุดวิธีหนึ่งเลยทีเดียวและแน่นอนไปอีกว่าหลายๆคนย่อมมีเพลงโปรดและเมโลดี้ที่ฟังแล้วอุ่นใจกันอยู่แล้วอะไรที่จะช่วยถ่ายทอดสิ่งพวกนี้ออกมาให้คุณได้ดีที่สุดล่ะถ้าไม่ใช่ “หูฟัง” อีกเช่นเดียวกัน

 

MetroSociety เลยขอรวบรวมหูฟังที่จะมาช่วยรองรับและตอบโจทย์ Lifestyle ของคุณได้อย่างครบครันมาฝากกันไว้เผื่อวันไหนได้ไปเดินเล่นผ่าน Shop แล้วคุณอาจจะมีใจอยากจะลองแวะไปลองฟังเสียงและจังหวะที่หูฟังเหล่านี้สร้างมาไว้รอคุณกัน

 

Jabra Elite Active 65t หลายคนที่ได้ลองทดสอบดูแล้วต่างยกย่องให้เป็นหูฟังแบบ AirPod ที่เอาชนะแบรนด์อื่นๆไปแบบขาดตัวกันเลยทีเดียวอย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าหูฟังแบบ AirPod นั้นพกพาแสนง่ายและมักชอบใช้หูฟังประเภทนี้แหละฟังเวลาที่ออกกำลังกายกันเพราะไม่มีสายรุงรังทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกและแน่นอนว่า Jabra Elite Active 65t ก็รู้ใจคุณมาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำด้วยมาตรฐาน IP56 ในแบบที่คุณไม่ต้องห่วงเลยว่าเหงื่อจะไหลท่วมตัวคุณขนาดนี้แล้วจะทำให้หูฟังของคุณพังหรือเปล่า

 

แถมยังมาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถสนทนาได้อีกด้วย และฟังกันไปยาวๆ เพราะมีแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว และในกรณีที่ถ้าคุณรีบมากแต่แบตเตอรี่หูฟังดันหมดคุณสามารถใช้เวลาเพียง 15 นาที กับการชาร์จที่จะให้คุณได้เวลาใช้งานได้นานถึง 1.5 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว

 

Sony WH-1000XM2 รุ่นใหม่ของ Sony WH-1000XM2 แม้ว่าจะมีรูปร่างที่ดูไม่ได้ต่างรุ่นก่อนมากนักแต่คราวนี้ก็มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นแถมราคายังถูกลงสาวกหูฟังของ Sony จะพลาดได้ไงต้องรีบไปสอยมาฟังเพลงกันให้สบายใจกันแล้วและยังมาพร้อมกับระบบควบคุมด้วยการสัมผัสซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้แถมยังมีโหมด Quick attention ที่เมื่อคุณเอามือมาโอบทีตัวหูฟังก็จะปรับลดระดับเสียงลงเพื่อให้คุณสามารถได้ยินเสียงรอบตัวได้มากขึ้นนั่นเอง

 

และในส่วนที่พัฒนาให้ดีขึ้นจากรุ่นแรกนั่นก็คือการจัดเสียงรบกวนให้กับคุณจากรอบข้างนั่นเองซึ่งความสามารถในส่วนนี้ Sony WH-1000XM2 ถูกจัดให้อยู่ในแนวหน้าเลยทีเดียว และถ้าจะให้พูดถึงความเหมาะในการใช้ก็อยากจะขอแนะนำว่าเหมาะกับการใส่เวลาทำงาน อ่านหนังสือ หรือกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิมากๆ หรือจะเอาไว้ใส่แล้วนอนพักผ่อนขณะเดินทางก็คิดว่าคงทำให้การพักผ่อนของคุณสมบูรณ์ขึ้นได้เช่นเดียวกัน

 

Bose QuietComfort 35 II ในครั้งนี้ Bose QuietComfort 35 II เพิ่มความสามารถพิเศษขึ้นมาอีกนั่นก็คือสามารถเชื่อมต่อกับ Google Assistantได้เรียบร้อยแล้วและเพิ่มปุ่มสำหรับ Google Assistant ขึ้นมาโดยเฉพาะอีกด้วยโดยยังคงมีปุ่มอื่นๆเอาไว้สำหรับฟังก์ชั่นอื่นๆเหมือนเช่นเคยไม่ว่าจะเป็นการลดเสียงรบกวนจากรอบข้างซึ่งไม่ได้มีแค่เฉพาะในลำโพงแต่มีระบบตัดเสียงรบกวนอยู่ที่ไมโครโฟนถึง 2 ชุดอีกด้วยและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกของ Bose QuietComfort 35 II  ในครั้งนี้ก็ยังพกมาทั้ง Bluetooth และ NFC เลยทีเดียวซึ่งบอกได้เลยว่ามีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม

 

นอกจากนี้ Bose QuietComfort 35 II ยังมาพร้อมกับยังมาพร้อมกับ Voice prompt นั่นก็คือระบบการสั่งการด้วยเสียงนั่นเองและมาพร้อมกับภาษาถึง 11 ภาษากันเลยทีเดียวแต่ก็ยังน่าเสียดายที่ยังไม่มีภาษาไทยรวมอยู่ในนั้นด้วย ที่เจ๋งมากก็คือระบบการใช้พลังงานแบตเตอรี่ของ Bose QuietComfort 35 II ในครั้งนี้นั้นยังสามารถชาร์จไฟซ้ำได้ในตัวถ้าจะพูดให้เห็นภาพคือเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มเรียบร้อยแล้วใช้งานในแบบไร้สายก็ยังสามารถใช้งานต่อไปได้ถึงกว่า 20 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว

 

 

V-Moda Crossfade 2 Wireless หูฟังแบบไร้สายที่ได้รับการยอมรับว่าคุณภาพเสียงล้นสุดๆและพูดได้เลยว่าในครั้งนี้ V-Moda Crossfade 2 Wireless ตั้งใจออกแบบมาอย่างพิถีพิถันแถมยังเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้นอีกด้วยและยังมีการปรับเปลี่ยนมาใช้ Hi-res ccaw coil ทำให้เสียงเบสมีความชัดเจนและนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นแต่จุดที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือส่วนของ Sound Stage นั่นเองซึ่งมีส่วนทำให้ดนตรีดีขึ้นรวมทั้งเสียงกลางและเสียงแหลมก็คมขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยและยังเป็นการเพิ่มความกว้างในการฟังเพลงให้กับคุณได้ดีขึ้นด้วยเพราะในรุ่นก่อนเพลงที่เหมาะกับ V-Moda มากที่สุดก็คือเพลงแนว Hip Hop และ EDM นั่นเองและถ้าจะใส่ V-Moda Crossfade 2 Wireless เพื่อการเล่นเกมส์หรือชมภาพยนตร์ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่อยากแนะนำเพราะมันจะทำให้คุณหลุดเข้าไปอยู่ในโลกตรงหน้าจอได้ง่าย ๆ เลยทีเดียว

 

นอกจากนี้ในส่วนของ Ear Cup นั้นก็มีการเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นใส่แล้วสบายหูไม่บีบรัดจนเกินไปและมีฟองน้ำรอบหูฟังที่นุ่มนวลทำให้การใช้งานในด้านต่างๆ ของคุณนั้นถือได้ว่าเป็นการพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่หากว่าคุณกำลังเชื่อมต่อกับ Smart Phone ของคุณอยู่แล้วมีสายเรียกเข้าหรือคุณโทรออก V-Moda Crossfade 2 Wireless ก็มี Mic Built-in อยู่ด้านบนของตัว Body เอาไว้รองรับการสนทนาที่ราบรื่นของคุณเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

 

 

Beats Studio3 Wireless แม้ว่า Beats Studio3 Wireless จะมาพร้อมกับราคาที่ค่อนข้างสูงแต่คุณภาพก็สูงตามด้วยเช่นเดียวกันให้คุณหายกังวลในส่วนนี้ไปได้เลยนี่คือหูฟังไร้สายที่เป็นเพื่อนซี้กับอุปกรณ์จาก Apple อย่างแท้จริงยิ่งกับ The Beats Studio3 Wireless ด้วยแล้วนั้นคราวนี้มาพร้อมกับชิป W1 จากทาง Apple ทำให้สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ของทาง Apple ได้อย่างมีประสิทธิภาพและง่ายดายพร้อมทั้งยังเป็นหูฟังที่ทำหน้าที่ใช้เพื่อสนทนาได้ดีอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียวและถ้าสงสัยว่าทำไมถึงทำมาเพื่อตอบสนองกับ Apple ได้ดีที่สุดนั่นก็เป็นเพราะว่า Apple ได้ทำการเทคโอเวอร์ Beats ไปแล้วนั่นเอง

 

และถ้าจะพูดกันถึงหูฟังในสมัยนี้ฟังก์ชั่นที่ช่วยตัดเสียงรบกวนนั้นถือว่ากลายมาเป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานไปเสียแล้วแต่จะมีแบรนด์ไหนพัฒนาออกมาให้โดดเด่นกว่ากันมากกว่า อย่างสำหรับ Beats Studio3 Wireless มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Pure ANC หรือ Pure Adaptive Noise Cancelling ซึ่งหูฟังจะทำการสุ่มเสียงรอบตัวขึ้นมาและคำนวณเพื่อตัวเสียงและปรับปรุงเสียงให้เหมาะสมกับเสียงในสภาพแวดล้อมมากที่สุด

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้หูฟังในระบบตัดเสียงรบกวนได้นานถึง 22 ชั่วโมงและในโหมดปกตินานถึง 40 ชั่วโมงกันเลยทีเดียวและมีระบบชาร์จที่รวดเร็วเพราะเพียงแค่คุณชาร์จเอาไว้ 10 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้ถึง 3 ชั่วโมงอีกด้วย

 

จะเห็นได้ว่าหูฟังจากทุกแบรนด์พยายามที่จะตอบสนองการพักผ่อนของคุณให้ได้มากที่สุดด้วยการพยายามตัดเสียงรบกวนให้มากวนใจคุณได้น้อยที่สุดและการเลือกว่าจะเอาแบรนด์ไหนรุ่นไหนมาครอบครองก็คงจะต้องเน้นที่ Lifestyle ของคุณเป็นหลักการฟังเพลงสักเพลงจะมีความหมายและได้อารมณ์มากขึ้นอย่างแน่นอนถ้าคุณเจอหูฟังที่เป็นคู่แท้ของมัน