BALENCIAGA - The Lost Tape

Balenciaga นำเสนอคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วงประจำปี 2022 ที่มาในรูปแบบของข้อความจากอดีตเกี่ยวกับสิ่งที่อาจจะเป็นและไม่เคยเป็น เป็นดั่งการหวนคิดถึงช่วงเวลาที่เสื้อผ้ามีชีวิตชีวาด้วยแนวคิดตั้งต้น อย่างการต่อต้านแฟชั่น การรื้อโครงสร้าง และความเรียบง่ายในรูปแบบโมโนโครม ซึ่งสามารถพบได้ทุกที่ ตั้งแต่งานอุตสาหกรรมไปจนถึงงานใต้ดินที่เป็นกระแสมีความเคลื่อนไหว

 

 

แฟชั่นโชว์ The Lost Tape ในครั้งนี้ ได้นำความโดดเด่นของผู้คนและสิ่งต่างๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวกำหนดยุคในปลายยุค 90 นี้ มาปรับใช้ ภายใต้ผลงานการกำกับโดย Harmony Korine

 

คอลเลคชั่นนี้เป็นสัญลักษณ์ของการเติมเต็มช่องว่างจากปีที่ Balenciaga ถูกลืมเลือนไป ด้วยซิลลูเอทแบบเรเวอร์ และโพสต์กรันจ์ที่ถูกนำมารังสรรค์อย่างเต็มที่ โดยมีการเล่นสัดส่วน และสร้างซิลลูเอทใหม่ และยังมีการพัฒนาขึ้นมาเพิ่มเติม รวมไปถึงซิกเนเจอร์ของ Balenciaga เช่น แจ็กเก็ตเข้ารูปช่วงเอว และชุดวอร์ม การกลับด้านจากด้านหน้าไปด้านหลังของชุดสูทคลาสสิกและเดรสผ้าทวีตเป็นการตั้งคำถามถึงตำแหน่งแห่งที่ที่เราเปิดและปิดร่างกาย เป็นการนำเอาโครงสร้างทางวิศวกรรมการตัดเย็บแบบกลับด้านมาสู่การสร้างสรรค์งานสไตล์เทเลอร์ พร้อมด้วยผ้านิตแบบยืดพิเศษเพื่อความง่ายในการสวมใส่

 

 

ชุดอันเป็นสัญลักษณ์ของ Balenciaga ถูกนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่ในรูปแบบที่สวมใส่สบายและโมเดิร์น เสื้อปาร์ก้าทรงระฆังมาพร้อมด้วยหมอนสำหรับเดินทางที่ติดไว้บริเวณคอที่สามารถถอดออกได้ เสื้อผ้าดั้งเดิมถูกนำมาปรับแต่งเพิ่มเติมให้มีความน่าสนใจเช่นชุดที่เป็นส่วนผสมของชุดคลุมอาบน้ำและเทรนช์โค้ต สลิปเดรสวินเทจถูกรื้อโครงสร้างออกก่อนจะถูกนำมาเย็บเข้าด้วยกันใหม่ กางเกงยีนส์ห้ากระเป๋าถูกตัดออกเป็นสามส่วนเพื่อให้สวมใส่ได้สามแบบทั้งกระโปรงสั้น กางเกง หรือรองเท้าบู๊ตยาว งานเทเลอร์ที่พลิ้วไหวสร้างขึ้นจากแขนเสื้อแบบเย็บตะเข็บจากช่วงคอทแยงเฉียงลงมา (Raglan Sleeve) และไม่มีซับใน ในอารมณ์สไตล์เบลเยียมอวอง-โกธ กางเกงเอวต่ำตัวเผยให้เห็นขอบกางเกงชั้นในเหนือเข็มหัวโลโก้ดับเบิ้ลบีเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ทำให้ดูช่วงตัวยาวขึ้น พัฟเฟอร์แจ็กเก็ตทรงคล้ายระฆังตัดเย็บในแบบงานกูตูร์มาพร้อมโบว์ที่สามารถใช้เป็นผ้าพันคอได้และสามารถถอดออกได้ การพันหรือเชื่อมติดเสื้อผ้าใช้รูปแบบงานดีไอวายและเข็มกลัดขนาดโอเวอร์ไซส์ ในขณะที่ลุคแรกของโชว์นั้นมาในชุดที่ราวกับห่อตัวด้วยถุงตั้งแต่ช่วงคอลงไป และกางเกงห้ากระเป๋าที่เป็นรองเท้าบู๊ตด้วยในชื่อ Pantaboots

 

 

ในส่วนของรองเท้า รองเท้ารุ่น Excavator เป็นรองเท้าบู๊ตที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบู๊ตสไตล์คาวบอยแต่มาในรูปแบบบู๊ตยาว ในขณะที่รองเท้ารุ่น Kensington เป็นรองเท้าแฟลตบัลเล่ต์หัวเหลี่ยมแบบยูนิเซ็กส์สวมใส่ในแบบรองเท้าสลิปเปอร์  และรองเท้ารุ่น Falkon Boot เป็นรองบู๊ตที่มีส่วนบนที่กว้าง ทำให้ดูมีวอลลุ่มมากขึ้น ในส่วนของกระเป๋า กระเป๋ารุ่น Lindsay คือกระเป๋าที่นำเอากระเป๋ารุ่นคลาสสิกของ Balenciaga มาตีความใหม่ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกระเป๋าหัวบัคเคิลในยุค 90 ของแบรนด์ และกระเป๋ารุ่น Waist Bag คือกระเป๋าคาดเอวที่มีที่รัดตรงกลาง ส่วนกระเป๋ารุ่น Metro มาในรูปแบบมีฝาปิดด้านหน้าทำมาจากเชือกถักที่ทำมาจากหนังเทียมและสายโซ่ขนาดใหญ่ และกระเป๋ารุ่น Emo คือการผสมผสานสายรัด ฮาร์ดแวร์ต่างๆ รวมถึงหนังฟอกหินไว้ด้วยกัน

 

 

นอกจากนี้ Balenciaga ยังคงยึดมั่นในการดำเนินการผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ผ้าพิมพ์และผ้าธรรมดาที่ได้รับการรับรองความยั่งยืนถึง 89.6% รวมไปถึงชิ้นส่วนของหนังอัปไซเคิลที่นำมาปรับใช้ในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าและเครื่องประดับในคอลเลกชั่นนี้อีกด้วย