๓ นิทรรศการแห่งดวงใจของคนไทย
- 28 ตุลาคม 2560
- 8,045
หลายวันมานี้คนไทยได้รับรู้ว่าเราทุกคนต่างคิดถึงพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของเรามากเพียงใด นิทรรศการมากมายที่เกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และมีอีก ๓ นิทรรศการที่ METRO-SOCIETY อยากพาคุณได้สัมผัส
"ความรักของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ต่อประชาชนชาวไทยมีมากแค่ไหน" นี่ไม่ใช่คำถามที่ต้องการคำตอบเพราะทุกคนล้วนแต่รู้คำตอบนั้นอยู่แล้ว นิทรรศการ "ดิน น้ำ ป่า ฟ้า" แรงบันดาลใจจากพ่อ จัดแสดงอยู่ที่ห้องนิทรรศการหลักชั้น ๗ ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ดูเพียงผิวเผินอาจจะคิดว่านี่ก็คงเป็นนิทรรศการจัดแสดงผลงานทั่วไป แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นยิ่งกว่าแค่การจัดแสดงทั่วไป เป็นการนำเสนอของเหล่าศิลปินหลายท่านส่งต่อให้ผู้ร่วมเข้าชมได้ตีความหมาย โดยจะไม่มีพระบรมฉายาลักษณ์ หรือ พระบรมสาทิศลักษณ์ ของพระองค์เลยแม้แต่ภาพเดียว
ผลงานที่แสดงถึงวัฏจักรของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ กับส่วนที่ถูกตัดไม้ทำลาย การแสดงถึงมายาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ถ้ามัวเมาในกิเลส
ฝนหลวง
หลายครั้งที่ได้เห็นพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ผ่านทางทีวี หนังสือพิมพ์ หรือเรื่องเล่า ที่มีกว่า ๔,๖๘๕ โครงการ ทุกคนได้มองเห็นและคิดตาม แต่สำหรับนิทรรศการนี้คุณจะได้รับรู้ถึงความรู้สึกเหล่านั้นมากขึ้นด้วยการนำเสนองานศิลปะของศิลปินหลายท่าน ซึ่งบางชิ้นงานได้นำสิ่งของต่างๆ จากสถานที่จริง ที่เป็นผลิตผลของโครงการเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของกองฟางจากผืนนาส่วนพระองค์ที่ทุ่งมะขามหย่อง ล็อคเก็ตบรรจุเมล็ดพันธุ์พืช น้ำ ดินจำนวน ๔,๖๘๕ อัน จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือการใช้ธุลีดินลูกรังในการสื่อความหมายของ คำผญา ปรัชญาภาษาอีสาน คือคำสอนเตือนใจ ในการดำรงชีวิต ให้สู้
ผลงานที่สร้างบ่อน้ำและโครงเหล็กติดไฟขึ้นในการสื่อถึงกังหันน้ำชัยพัฒนา หนึ่งในโครงการพระราชดำริ เรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำเสีย
งานแสดงที่ศิลปิน (ศิลปิน อาจารย์ พระสงฆ์ และปราชญ์ชาวบ้าน) นำเสนอด้วยรูปแบบต่างๆ แบบศิลปะจัดวาง หรือ Installation Art รวม ๙๐ ชิ้นงาน ล้วนต้องการสื่อเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทุกคนในผืนแผ่นดินนี้ได้เข้าใจมากขึ้นว่า ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะอยู่กับเราคนไทยในทุกที่ไม่ว่าจะเป็นสายลม สายน้ำ สายฝน หรือแม้แต่ผืนดิน นี่คือความรักและพระเมตตาที่มีต่อลูกของท่าน
ร้อยเรื่องราว...ในวันที่พ่อไม่อยู่ ผลงานที่ใช้เมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ รวมถึง ดิน น้ำ รวม ๑๖ ชนิดจากบริเวณโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บรรจุในวัสดุเหมือนร๊อกเก็ต โดยมีการจัดสัดส่วนการบรรจุด้วยการใช้สูตร 30(เมล็ดข้าว)/ 30(น้ำ) / 30(เมล็ดพืช) /10(ดิน) หลักการจากเกษตรทฤษฎีใหม่ แขวนเป็นรูปแผนที่ประเทศไทยจากเส้นไหมจาก อ.บ้านโพน จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่ผลิตผ้าไหมแพรวาที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นผู้ริเริ่มพัฒนา
ดินลูกรังจากภาคอีสานภายใต้กระจกที่มีการเขียนข้อความคติไว้ นั่นคือ คำผญา ที่เป็นคำสอนลูกสอนหลานของชาวอีสาน ศิลปินต้องการให้เรานั่งลงมองกระจกเพื่อตระหนักว่าตัวเราเองเป็นใคร มาจากไหน เป็นการตีความถึงคำสอนของพระองค์ท่านที่ให้เรารู้จักตนเอง ประมาณตนในการใช้ชีวิตอย่างไม่เกินตัว
สามารถชมภาพแบบ ๓๖๐ องศา
นิทรรศการ “ดิน น้ำ ป่า ฟ้า - แรงบันดาลใจจากพ่อ"
จัดแสดงระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม - 12 พฤศจิกายน 2560
ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 7หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
นิทรรศการพระราชาในดวงใจ เรื่องราวที่เหล่าศิลปินได้เป็นตัวแทนการนำเสนออีกรูปแบบหนึ่งในการแสดงออกว่า นี่คือ "ดวงใจหนึ่งเดียวของคนไทย" จัดแสดงอยู่ ณ ชั้น ๘ ของหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครเช่นกัน
ผลงานของ ปรีชา เถาทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) สร้างสรรค์งานปั้นในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยงเคียงข้าง ทอดสายตามองไปยังพระองค์
ผลงานของคุณพินิตย์ พันธประวัติ ผู้ทำงานอยู่ที่โรงงานกษาปณ์ เป็นคนแกะสลักพระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ใช้ในธนบัตร โดยใช้เทคนิคโบราณคือการแกะลงบนโลหะ
การรวบรวมผลงานทั้งด้านจิตรกรรมและประติมากรรมที่มากที่สุดอีกครั้งหนึ่งกว่า ๑๖๐ ผลงานของคนมีฝีมือจากทั่วประเทศ บางผลงานหายาก บางชิ้นงานใช้เวลานานในการสร้างสรรค์ ล้วนแล้วแต่เป็นความตั้งใจจากหลากหลายอารมณ์ที่มีเป้าหมายเดียวกัน ชิ้นงานที่เป็นตัวแทนของประชาชนเพื่อสื่อแทนคำว่า ลูก..รักพ่อมากเพียงใด
ผลงานของคุณสนั่น ศิลากรณ์ เป็นพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ถือว่าเป็นประติกรรมที่เป็นต้นแบบที่จะสร้างอนุสาวรีย์ แต่ไม่เคยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างขึ้น ผลงานชิ้นนี้จึงนับว่าเป็นงานประติมากรรมที่หาดูได้ยากมาก
สามารถชมภาพแบบ ๓๖๐ องศา
ห้องหมายเลข ๙ เป็นไฮไลท์น่าสนใจสำหรับนิทรรศการชั้นนี้ เป็นห้องวงรีที่คุณศักดิ์ชัย กาย รวบรวมเอาภาพพระบรมฉายาลักษณ์ทั้งคุ้นตากันดีและหาชมยากมารวมไว้ ซึ่งบางภาพไม่สามารถระบุวันเวลา-สถานที่ หรือผู้ถ่ายภาพไว้ได้ แต่ทุกภาพล้วนเป็นภาพที่มีคุณค่า สมบัติแห่งกาลเวลา ที่ทุกคนเก็บรักษาไว้ที่บ้าน เป็นความรักที่สมกับคำที่คนไทยพูดกันอยู่เสมอว่าเป็นรูปที่มีทุกบ้าน มีตู้กระจกที่มีความยาว ๙.๙ เมตร ทำเป็นทรงเลข ๙ วางไว้กลางห้องรวบรวมของสะสมหายากที่นักสะสมหลายท่านร่วมนำมาเสนอ นี่เป็นสิ่งที่จะบอกให้โลกได้รู้ว่านี่คือ "ดวงใจของคนไทย"
ห้องหมายเลข ๙ เป็นห้องที่จัดแสดงภาพพระบรมฉายาลักษณ์และสิ่งของล้ำค่าเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ ๙ รวบรวมโดยคุณศักดิ์ชัย กาย ศิลปินและบรรณาธิการบริหาร ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Lips
สามารถชมภาพแบบ ๓๖๐ องศา
นิทรรศการ “พระราชาในดวงใจ”
จัดแสดงระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม - 26 พฤศจิกายน 2560
ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 8 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
"ภาพถ่ายมักจะบอกเล่าเรื่องราวได้ในภาพนั้นๆ ด้วยตัวเอง" นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นไฮไลท์สำคัญที่ชั้น ๙ นี่คือการเล่าเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่องเล่าของ"พ่อ"ผ่านภาพถ่ายที่คุณจะได้ชมเป็นครั้งแรกถึง ๒๐๐ ภาพ
งานแสดงผลงานภาพถ่ายที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เคยมีพระราชปรารภกับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ว่าอยากมีสักครั้ง
สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดขึ้นจากการขอพระบรมราชานุญาตจากในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ เพื่อเข้าไปคัดภาพส่วนหนึ่งนำมาจัดแสดง โดยมีทั้งภาพที่เคยเผยแพร่และไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน โดยแบ่งเป็น ช่วงต้นรัชกาล จัดแสดงภาพถ่ายยุคขาว-ดำของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ พระราชโอรส พระราชธิดา ตั้งแต่วันพระราชสมภพและพระบรมวงศานุวงศ์ ช่วงกลางรัชกาล จัดแสดงภาพทรงงาน ณ สถานที่และโครงการต่างๆ ทั้งด้านการเกษตร การชลประทาน การพัฒนาท้องถิ่น และโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และ ช่วงปลายรัชกาล จัดแสดงภาพคราวเสด็จฯ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระราชวังไกลกังวล ทัศนียภาพอันงดงามต่างๆ และสุนัขทรงเลี้ยง
สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้จากนิทรรศการนี้คือได้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่มีทั้งเรื่องของความละเอียดอ่อนด้านแสง องค์ประกอบต่างๆ รวมถึงความตั้งใจ ในการถ่ายภาพแต่ละภาพ จากคำบอกเล่า การถ่ายภาพในแต่ละครั้งจะกดชัตเตอร์ในจำนวนน้อยครั้งแต่ต้องตั้งใจและมั่นใจ แทบทุกภาพจะสื่อถึงอารมณ์ในช่วงเวลานั้นได้อย่างดี รวมถึงภาพถ่ายในแบบ Self-Portrait ที่ทรงตั้งกล้องถ่ายกิจวัตรต่างของท่านด้วยพระองค์เอง
และมากกว่านั้นหลังจากที่ชมนิทรรศการนี้แล้ว คุณจะทราบถึงสายพระเนตรที่มีต่อผู้ที่อยู่รอบข้าง สิ่งที่สัมผัสได้คือ ความตั้งมั่นในการทำงาน การใส่ใจต่อสิ่งรอบข้อง และ "ความรัก" ต่อประชาชนอย่างจริงใจ ภาพที่คุณจะสัมผัสไม่ใช่ด้วยตาเท่านั้นแต่ใจของคุณจะรับรู้ได้ว่า เราประชาชนทุกคนอยู่ในสายพระเนตรของท่านเสมออย่างไม่มีวันหมด และจากนี้จะเป็นสิ่งเตือนใจในยามที่ท้อแท้ว่า "พ่อจะยังมองดูลูกทุกคนอยู่ตลอดไป"
สามารถชมภาพแบบ ๓๖๐ องศา
นิทรรศการ "ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช"
จัดแสดงระหว่างวันที่ 2 กันยายน 2560 – 7 มกราคม 2561
ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 9 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ทั้ง ๓ นิทรรศการเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลากหลายนิทรรศการที่จัดแสดงอยู่ทั่วประเทศ นอกจากแสดงความคิดถึงด้วยการเข้าชมแล้วอย่าลืมน้อมนำสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้สร้างแรงบันดาลใจเอาไว้ให้ปฎิบัติตาม ทั้งหมดนี้เป็นการบอกเล่าเรื่องราวได้อย่างชัดเจนของพระราชดำรัสที่ว่า
“…เมื่อข้าพเจ้าเป็นนักเรียนอยู่ในยุโรป ข้าพเจ้าไม่เคยตระหนักว่าประเทศของข้าพเจ้าคืออะไร และเกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าแค่ไหน ไม่ทราบตราบจนกระทั่งข้าพเจ้าได้เรียนรู้ที่จะรักประชาชนของข้าพเจ้า เมื่อได้มีการติดต่อกับเขาเหล่านั้น ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าสำนึกในความรักอันมีค่ายิ่ง ข้าพเจ้าไม่เป็นโรคคิดถึงบ้านที่จริงจังอะไรนัก แต่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้โดยการทำงานที่นี่ว่า ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือการได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือคนไทยทั้งปวง…”