YOLO ( You Only Live Once )

พักหลังๆ อาจเคยได้ยิน คำแสลงนี้ ที่หมายถึง คุณเกิดมาแค่ครั้งเดียว อยากทำอะไรก็ทำซะ สะท้อนถึงมุมมองการใช้ชีวิตที่โลดโผนโจนทะยานและค่อนข้างปัจเจกของคนรุ่น Gen Y แน่นอน อาจถูกมองว่า เป็นวัยที่ไร้สาระ ดูจะหยิบหยง เอาแต่ใจ เบื่อง่ายหน่ายเร็ว แต่หากมองดีๆ ก็มีความสนุกและสีสันในชีวิตไม่น้อย โดยแสลง YOLO ก็ให้ความหมายใหม่ๆกับคน Gen อื่นๆ ได้ไม่น้อย เพราะแน่นอนว่าเรามีชีวิตเดียว ฉะนั้น จงออกไปใช้ให้คุ้มค่าซะ ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นคน ว่าแต่มีอะไรบ้าง ?? ที่เราควรทำครั้งหนึ่งในชีวิต

 

กินอาหารหมดอายุ เคยสงสัยไหมครับว่า อาหารที่หมดอายุแล้วจะมีรสชาติเป็นอย่างไร รสชาติมันจะเหมือนกันกับก่อนหมดอายุหรือไม่ มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา หลังการกิน ป่วย ท้องเสีย หรืออร่อยเหมือนเดิม ??

 

 

เดินทางรอบโลก ลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก ยังมีคนอีกมายมากที่อยู่รอบตัวเรา จงออกเดินทางเพื่อเปิดหูเปิดตาซะบ้าง ไปสัมผัสความแตกต่างที่หลากหลายของโลก ด้วยสายตาของเราสักครั้งในชีวิต

 

 

นั่งรถไฟไทย (แบบพัดลม) ฟังแล้วอาจขำนิดๆ เพราะทราบหรือไม่ รถไฟไทย ที่ใช้เดินทางอยู่ทุกวันนี้ ยังคงเป็นรถไฟสมัยแบบรัชกาลที่ 5 ไปลองสัมผัส กลิ่นอายความเก๋าและประวัติศาสตร์ของรถไฟไทยกันก่อนตายเถอะ

 

 

 

มีแฟน เขาบอกว่า ความรักคือสุนทรียศาสตร์หนึ่งที่ชีวิตควรได้ไปสัมผัส นอกจากความรักของพ่อแม่แล้ว ก็ควรได้สัมผัสความรสชาติของ “ความรัก” จากแฟน จะหวานและมีความสุขเหมือนอมยิ้ม หรือขมขื่นเหมือนกินบอระเพ็ด

 

 

อกหัก แน่นอนรสชาติหนึ่งความของรัก คือรสชาติอกหัก ที่เคยได้ยินมา อารมณ์คล้ายๆตกเหว ไม่ก็ เหมือนตัวลอยในสูญญากาศ มันหวิวๆ ล่องลอยไร้การทรงตัว หรือ อาจคล้ายวินาทีโลกกำลังจะแตก

 

 

 

ใช้เงินแบบเศรษฐี วินาที ที่เราจ่ายเงินแบบไม่หยุดมือ แบบไม่ต้อง คิดคงฟินน่าดู

 

 

เมาจนไม่มีสติ ระดับของการเมาก็มีหลายระดับ แต่สำหรับระดับ “เมาจนไม่มีสติ” ควบคุมตัวเองไม่ได้นั้น มันคงจะเป็นที่สุดแล้วจริงๆในวงการนักดื่ม ใครที่ยังไม่เคย ก็ต้องลอง !! แต่ถ้ารู้ตัวว่าถึงระดับนั้นแล้ว ก็ไม่ควรขับรถหรือก่อความลำคาญให้ผู้อื่นนะครับ

 

 

ลองตายก่อนตายจริง อาจดูนามธรรมเกินจริงไปบ้าง แต่หากเราลองใช้จินตนาการว่าวันหนึ่งเราใช้ชีวิตแบบคนที่ตายแล้ว อาจทำให้เรามีสติกับการใช้ชีวิตมากขึ้นก็ได้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนวันนั้นมาถึง

 

 

ออกแบบงานศพให้ตัวเอง บางทีเราก็อยากให้งานศพของเรา มี Mood and Tone แบบการ์ตูนดีสนีย์ หรือไม่ก็ อยากให้ทุกคนที่มางานแต่งกายโทนพาลเทล หรือ ไม่เอาวงมโหรีปีพาทย์เศร้าๆ แต่ ใช้เพลงแนว EDM ทั้งงาน คนในงานจะได้ไม่ดูเศร้าจนเกินไป

 

 

คำว่า "ใช้ชีวิต" คงจะมีสีสันและสนุกมากกว่าที่ใครๆหลายๆคนกำลังทำอยู่ หากเราใช้ชีวิตโดยไม่ยึดติดกับสิ่งใดมากขึ้นเกินไป ผ่อนบ้าง ตึงบ้าง ให้ชีวิตได้เคลือนไหวหรือเปลี่ยนแปลง ไปตามวัยของมัน ก็คงสนุกไม่น้อย