NIKE Air VaporMax 2020 Flyknit

BY Ghostwriter

  • 24 กรกฏาคม 2563
  • 7,076

รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต (Nike Air VaporMax 2020 Flyknit) เป็นหนึ่งในรองเท้าของไนกี้ที่พัฒนาโดยเน้นเรื่องความยั่งยืนมากที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบัน

 

เนื่องจากรองเท้ารุ่นนี้ใช้วัสดุรีไซเคิลกว่าร้อยละ 50 ของน้ำหนักเป็นองค์ประกอบของรองเท้า ไนกี้พัฒนารองเท้ารุ่นนี้จากกระบวนการสร้างสรรค์และทดลองต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านการออกแบบอย่างยั่งยืน (Circular Design) ในหลาย ๆ องค์ประกอบของรองเท้ารุ่นนี้ 

 

Photo: Courtesy of NIKE

 

รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิตเป็นรองเท้าที่พัฒนาขึ้นจากหลักการเดียวกับหลักการที่ไนกี้ใช้พัฒนารองเท้าไนกี้ สเปซ ฮิปปี้ (Nike Space Hippie) ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ สังเกตได้ทั้งจากโครงสร้างชิ้น เวเปอร์แม็กซ์ แอร์ (VaporMax Air Unit) รุ่นใหม่ที่มีความยาวตลอดพื้นรองเท้าไปจนถึงการเลือกสรรวัสดุที่ให้ความสำคัญอย่างที่สุดกับความยั่งยืน เมื่อพิจารณารองเท้ารุ่นใหม่นี้อย่างละเอียด จุดเด่นของรองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต มีทั้งหมด 5 ประการดังต่อไปนี้

 

Photo: Courtesy of NIKE

 

 

1.ครั้งแรกของการพัฒนาโครงสร้างชิ้นเวเปอร์แม็กซ์แอร์ รุ่นใหม่ที่มีความยาวตลอดพื้นรองเท้าและผลิตโดยใช้วัสดุรีไซเคิลกว่าร้อยละ 75 นอกจากนี้ โครงสร้างไนกี้แอร์ในรองเท้ารุ่นนี้ยังมีลักษณะเป็นชิ้นเดียว มีความหนาสุดที่ส่วนส้นเท้าไล่ลงไปจนเพรียวบางที่สุดที่บริเวณปลายนิ้วเท้า ซึ่งช่วยให้รองเท้าดูเพรียวบางกว่ารองเท้าตระกูลเวเปอร์แม็กซ์รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ รองเท้าตระกูลเวเปอร์แม็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยังสวมใส่ได้สบายยิ่งขึ้นและให้ความรู้สึกขณะเดินที่ดีกว่าเดิมด้วย (ทั้งนี้ โครงสร้างแอร์ของไนกี้ทุกชิ้นผลิตจากวัสดุรีไซเคิลกว่าร้อยละ 50 มาตั้งแต่ปี 2008)

 

Photo: Courtesy of NIKE

 

บริเวณพื้นรองเท้ารุ่นนี้คือชิ้นส่วนแอร์รุ่นแรกที่มีความยาวตลอดพื้นรองเท้า ช่วยให้จังหวะการก้าวเท้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น รองรับการเคลื่อนไหวของส้นเท้าและให้การตอบสนองที่ใต้ฝ่าเท้าได้ดียิ่งขึ้น

 

รองเท้าเวเปอร์แม็กซ์รุ่นล่าสุดของปี 2020 มิได้ใช้ลวดลายพื้นรองเท้าแบบวัฟเฟิล (Waffle) ที่เป็นตำนานของไนกี้ โดยไนกี้ใช้ลวดลายพื้นรองเท้าแบบเรขาคณิตที่ช่วยผสานการทำงานของถุงลมไนกี้ แอร์ (Nike Air Bags) และจากการค้นคว้าของไนกี้ในการหาจุดที่เกิดแรงกดของเท้าที่พื้นรองเท้า ทำให้ทุกจังหวะการก้าวเท้านิ่มนวลที่สุดและเสริมประสิทธิภาพของการยึดเกาะขณะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนไหว

 

2. เส้นใยฟลายนิตที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (Recycled Flyknit Yarn) นั้นผลิตจากวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการผลิตกว่าร้อยละ 67 ของน้ำหนัก ผสานกับเส้นใยที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลอื่น (รวมถึงเส้นใยจากขวดพลาสติก) แทนที่จะปล่อยให้เป็นเศษวัสดุเหลือทิ้ง การนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ผลิตรองเท้าคู่ใหม่ส่งผลให้หน้ารองเท้าของรองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิตแต่ละคู่มีสีสันไม่ซ้ำกันเลยนักออกแบบของไนกี้ภูมิใจนำเสนอรองเท้าที่สมบูรณ์แบบแต่แฝงไว้ด้วยเอกลักษณ์เนื่องจากสีสันของหน้ารองเท้ารุ่นนี้จะมีลักษณะแตกต่างกันในแต่ละข้าง

 

Photo: Courtesy of NIKE

 

3. พื้นในรองเท้า ออโธไลท์ (Ortholite Sockliner) แบบ 2 ชั้นหล่อขึ้นโดยใช้วัสดุรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบกว่าร้อยละ 50 และไนกี้ยังพัฒนาให้รู้สึกสบายขณะสวมใส่ได้มากยิ่งขึ้น ส่วนลิ้นรองเท้าใช้โฟมรีไซเคิลเป็นองค์ประกอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิตจะมีตราประทับ Sunburst logo ของไนกี้ แสดงให้เห็นว่ารองเท้ารุ่นนี้เป็นผลิตภัณฑ์ในโครงการ Move to Zero ผู้สวมใส่ยังสามารถดึงแถบปรับความกระชับที่บริเวณลิ้นรองเท้าเพื่อการถอดหรือสวมใส่ที่สะดวกยิ่งขึ้นได้

 

Photo: Courtesy of NIKE

 

4. วัสดุ TPU สำหรับส่วนปลายเท้าและเกราะรองส้นเท้านั้นใช้ TPU รีไซเคิลเป็นองค์ประกอบมากกว่า
ร้อยละ 60 ซึ่ง TPU รีไซเคิลที่ไนกี้ใช้ยังก่อให้เกิดลวดลายริ้วที่สวยงามที่ตัวรองเท้าด้วย 
เกราะรองส้นเท้าเพื่อความกระชับนั้นใช้ TPU รีไซเคิลเป็นองค์ประกอบมากกว่าร้อยละ 60

 

5. ส่วนพื้นนอกรองเท้ารองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต มีเทคโนโลยีไนกี้กรินด์ (Nike Grind) ซึ่งผลิตจากวัสดุรีไซเคิลทั้งชิ้น เทคโนโลยีไนกี้ กรินด์ ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลหรือเศษวัสดุต่าง ๆ นั้นเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ไนกี้สรรสร้างขึ้นเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตของไนกี้เพื่อปกป้องโลกและส่งเสริมกระบวนการออกแบบอย่างยั่งยืน

 

Photo: Courtesy of NIKE

 

เพื่อให้รองเท้าตระกูลเวเปอร์แม็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุด สวมใส่และถอดออกได้ง่าย เหมาะสมกับผู้สวมใส่ทุกคน และสวมใส่ได้สบายตลอดทั้งวัน ไนกี้จึงเสริมคุณสมบัติไนกี้ฟลายอีซ เข้ามาเป็นองค์ประกอบหนึ่งของรองเท้าตระกูลนี้ คุณสมบัติไนกี้ฟลายอีซคือกลไกสำหรับการสวมใส่และถอดรองเท้าที่ผู้สวมใส่สามารถทำได้ด้วยมือข้างเดียว

 

เทคโนโลยีนี้ออกแบบขึ้นตามหลักการออกแบบเพื่อทุกคน ช่วยเสริมคุณค่าสำคัญ คือการพัฒนาให้ทุกคนสวมใส่และถอดรองเท้าได้ง่ายกว่าเดิม เทคโนโลยีไนกี้ฟลายอีซ พัฒนาขึ้นจากรากฐานของความมุ่งมั่นประการหนึ่งของไนกี้ที่ดำรงอยู่อย่างยาวนาน คือการรับฟังข้อคิดเห็นของนักกีฬารวมไปถึงการคำนึงถึงคุณสมบัติของรองเท้าที่ดี

 

รองเท้าไนกี้ แอร์ เวเปอร์แม็กซ์ 2020 ฟลายนิต จะวางจำหน่ายในวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ ทางเว็บไซต์ nike.com ในราคา 7,500 บาท