LOUIS VUITTON #PF18

“สำหรับคอลเลคชั่นนี้ ผมนึกถึงนักเดินทางระดับโลกอย่างแท้จริง” คิม โจนส์ (Kim Jones) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สุภาพบุรุษของหลุยส์ วิตตอง กล่าว “ผมหลับตาเห็นภาพของเมืองที่เต็มไปด้วยแสงสีอย่างฮ่องกงและนิวยอร์ค ไปจนถึงท้องฟ้าอันกล้างใหญ่แห่งเทือกเขาฮิมาลายัน แล้วนำไลฟ์สไตลของการท่องเที่ยวในสถานที่เหล่านั้น มาสร้างสรรค์เป็นการแต่งกายของชายหนุ่มในคอลเลคชั่นนี้”

 

 

สำหรับแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ Precollection Autumn/Winter 2018 นี้ มีหลากหลายมาก แต่ก็ล้วนแล้วมาจากการเดินทางทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ลายโมโนแกรมก็ยังคงเป็นพระเอกของคอลเลคชั่นนี้

 

 

โดยได้ถูกนำมาสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ในทุกผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ลายพิมพ์บนชุดสูทแบบเป็นทางการ กางเกงยีนส์ เสื้อถักไหมพรม หรือจะเป็นลายบางๆบนเสื้อเชิ้ตไหมแบบญี่ปุ่น ไปจนถึงเสื้อผ้าแจ็กการ์ด (jacquards) หรือเสื้อลายฉลุ

 

 

อีกทั้งดีไซเนอร์ยังได้นำเอาสัญลักษณ์ของแบรนด์มาดัดแปลงกลับหัวให้เป็นลายใหม่ที่ชื่อ Louis Vuitton Upside-Down นอกจากนี้ สำหรับ Icônes collection หรือคอลเลคชั่นประจำวัน ก็ยังได้นำเอาลายโมโนแกรมมาเพิ่มสีสันให้แก่คอลเลคชั่นอีกด้วย ส่วนในคอคเลคชั่นชุดสูททางการนั้นก็ได้นำเอาลายโมโนแกรม อิคลิปส์  (Monogram Eclipse) มาตกแต่งอีกด้วย

 

 

สำหรับลายพิมพ์ประจำฤดูกาลนี้ ก็เต็มไปด้วยกลิ่นไอของความสนุกสนาน โดยลายแรก ได้แรงบันดาลใจมาจากลายไพ่และลูกเต๋า ส่วนลายที่สองก็คือ ลายตัวหนังสือที่เขียนว่า “Merci. Have A Vuitton Day’ ซึ่งปรากฏอยู่บนเสื้อแจ็กเก็ตประดับฮู้ดและเสื้อยืด

 

 

พิเศษสำหรับซีซั่นนี้ด้วยการเครื่องหนังรุ่นใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ โมโนแกรม ชาโดว์ (Monogram Shadow) ได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีลักษณะเป็นหนังนิ่มพิมพ์นูนลายโมโนแกม และรุ่น Louis Vuitton Upside-Down ที่อยู่บนผ้าใบลายโมโนแกรม อิ้งค์ (Monogram Ink) ที่แต่งแต้มด้วยสีสันเฉดนีออนเพื่อความโมเดิร์น นอกจานี้ ยังมีกระเป๋าเป้สะพายหลังใบใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักเดินทาง ด้วยรูปทรงแนวสปอร์ต พร้อมหูรูดและช่องเก็บสัมภาระทั้งด้านนอกและด้านใน สะดวกต่อการเดินทาง

 

 

ในส่วนของคอลเลคชั่นรองเท้านั้นก็มีความเป็นแฟชั่นมากขึ้น ดังเห็นได้จากรองเท้าบู้ตหุ้มข้อ ลายโมโนแกรมก็ยังความโดดเด่นอยู่เช่นกัน โดยเพิ่มความเท่ด้วยการประดับหมุดและการกุ๊นด้วยหนังตามรอยขอบรองเท้า ทั้งรองเท้าบู้ตหุ้มข้อและรองเท้าดาร์บี้ ในขณะที่รองเท้าลำลองก็มีทั้งรองเท้าผ้าใบ และรองเท้าบู้ตโมโนแกรม ซึ่งสอดคล้องกับธีมแห่งการผจญภัย

 

 

โดยรวมแล้ว คอลเลคชั่นนี้มีความแตกต่างและสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางในปัจจุบัน ผู้ซึ่งย้อนมองอดีต แต่ในขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นสู่อนาคต สมกับคำว่า ’Louis Vuitton Forever’