OMEGA x James Bond

BY Ghostwriter

  • 18 กันยายน 2568
  • 4,429

ถ้าพูดถึงเจมส์ บอนด์ ชายผู้เป็นสัญลักษณ์ของความเนี๊ยบและอันตรายในเวลาเดียวกัน ภาพที่เรานึกออกคงไม่พ้นชุดสูทตัดเย็บอย่างประณีต รถสปอร์ตสุดแรง แก้วมาร์ตินีที่เขาถืออยู่ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ “นาฬิกาข้อมือ” ที่กลายเป็นทั้งเพื่อนคู่ใจและอาวุธลับในทุกภารกิจของสายลับ 007

 

 

จุดเริ่มต้นของนาฬิกาในโลกสายลับ 007

เอียน เฟลมมิง ผู้สร้างตัวละครเจมส์ บอนด์ ไม่ได้มองนาฬิกาเป็นเพียงเครื่องประดับ แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนของผู้ชายได้พอๆ กับสูทจาก Savile Row ในหนังสือ Live and Let Die ที่ตีพิมพ์ในปี 1954 บอนด์สวมใส่ Rolex และเมื่อนวนิยายถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ Dr. No ในปี 1962 นาฬิกาก็ปรากฏอย่างชัดเจนบนข้อมือสายลับ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มันก็กลายเป็นองค์ประกอบที่ต้องมีอยู่ในทุกตอนเสมือนหนึ่งเป็นกฎของจักรวาลบอนด์

 

 

 

 

จาก Rolex สู่การครองเวทีของ OMEGA

ตลอดหลายสิบปี นาฬิกาของบอนด์เคยเปลี่ยนผ่านหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Rolex, TAG Heuer หรือ Seiko แต่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 1995 เมื่อ GoldenEye เข้าฉาย และ OMEGA Seamaster ได้เข้ามาแทนที่ กลายเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของสายลับ 007

ลินดี เฮมมิง ผู้ออกแบบคอสตูมในเรื่องเล่าว่า เธอเลือก Seamaster เพราะมันสะท้อนตัวตนบอนด์ได้สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งฐานะอดีตนาวิกโยธิน นักดำน้ำ และสุภาพบุรุษหัวก้าวหน้า การเลือกครั้งนั้นไม่เพียงเปลี่ยนภาพลักษณ์ของบอนด์ แต่ยังทำให้ Seamaster กลายเป็นนาฬิกาที่ผูกพันกับภาพยนตร์ชุดนี้มาตลอดกว่า 30 ปี

 

 

Seamaster และบทบาทในฐานะอาวุธลับ

แม้ Seamaster จะขึ้นชื่อในชีวิตจริงเรื่องความแข็งแกร่งและเที่ยงตรง แต่ในโลกภาพยนตร์ ทีมผู้สร้างได้ใส่จินตนาการเพิ่มเติมให้นาฬิกากลายเป็นอาวุธลับคู่กาย ตั้งแต่เลเซอร์ตัดเหล็กใน GoldenEye สายสลิงโหนตึกใน The World is Not Enough การปลดชนวนระเบิดใน Die Another Day ไปจนถึงปุ่มระเบิดสุดไฮเทคใน No Time To Die จินตนาการเหล่านี้แม้จะไม่เกิดขึ้นจริง แต่ก็ทำให้ Seamaster เป็นมากกว่านาฬิกา มันคือสัญลักษณ์แห่งอำนาจและความเหนือชั้นที่ผูกติดอยู่กับสายลับ 007

 

 

 

Seamaster Diver 300M 007 Edition

ในภาพยนตร์ No Time To Die ที่ออกฉายในปี 2021 เจมส์ บอนด์ของแดเนียล เครก ได้สวมใส่ Seamaster Diver 300M 007 Edition รุ่นพิเศษที่ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงทั้งการใช้งานจริงและภาพลักษณ์บนจอเงิน ตัวเรือนผลิตจากไทเทเนียมเกรด 2 ที่แข็งแรงแต่น้ำหนักเบา หน้าปัดอะลูมิเนียมสีทรอปิคัลที่เข้มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป สายนาฬิกา NATO โทนสีน้ำตาล เทา และเบจ สะท้อนสไตล์ดิบแต่หรู ฝาหลังสลักรหัสกองทัพอังกฤษและเลข 007 อันเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้

ที่สำคัญ นาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหนังเท่านั้น แต่ยังผลิตออกมาจำหน่ายให้กับแฟนๆ ทั่วโลกในรูปลักษณ์เดียวกับที่บอนด์สวมใส่ในภาพยนตร์ ยกเว้นเพียงอาวุธลับที่ยังคงอยู่ในโลกของจินตนาการ

 

 

 

ประวัติศาสตร์จริงที่หลอมรวมเข้ากับตำนาน

ความพิเศษของ OMEGA ไม่ได้อยู่เพียงการเป็นนาฬิกาในภาพยนตร์ แต่ยังมาจากประวัติศาสตร์จริงที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง OMEGA เคยเป็นผู้ผลิตนาฬิกาให้กองทัพอังกฤษ ด้วยคุณสมบัติทนทาน กันน้ำ กันกระแทก และต้านสนามแม่เหล็ก และทั้งหมดนี้คือต้นกำเนิดที่ถูกส่งต่อมายัง Seamaster รุ่นต่างๆ

ตั้งแต่ปี 1948 เมื่อ Seamaster รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของแบรนด์ จนถึงปัจจุบัน Seamaster ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความแม่นยำและความทนทานที่ได้รับการยอมรับทั้งในสนามรบ กีฬา และใต้น้ำลึก ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ฮอลลีวูดอย่างสง่างามในฐานะนาฬิกาคู่กายเจมส์ บอนด์

 

 

 

 

เวลากับสไตล์ที่ไม่เคยหยุดเดิน

กว่า 30 ปีที่ OMEGA Seamaster อยู่บนข้อมือของสายลับ 007 มันไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เครื่องบอกเวลา แต่กลายเป็นตัวแทนของบุคลิกชายผู้มีความมั่นใจ แข็งแกร่ง และมีสไตล์ที่ไม่เคยตกยุค นักแสดงที่รับบทเจมส์ บอนด์อาจเปลี่ยนผ่านมาหลายคน แต่ Seamaster ยังคงเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

ในโลกที่ทุกวินาทีอาจหมายถึงชีวิตหรือความตาย OMEGA ยังคงเป็นผู้กำหนดจังหวะเวลา และในโลกแห่งสไตล์ มันคือสัญลักษณ์ของสุภาพบุรุษนักผจญภัยที่เหนือกาลเวลา