VANS

BY Staff3

  • 11 พฤษาภาคม 2557
  • 9,771

เชื่อว่าถ้าพูดถึงแวนส์ (VANS) สิ่งแรกที่จะคิดถึงคือรองเท้าทรงสลิปออน (Slip-on) หลากสี หลายลวดลายที่ได้รับความนิยมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชายหนุ่มอย่างเรา ด้วยรูปทรงคลาสสิคที่ออกแบบมาเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับผู้ใส่สวมอย่างแท้จริง คุณภาพที่ทนทาน อีกทั้งราคาที่สามารถจับต้องได้ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป ทำให้ทุกวันนี้ VANS ยังเป็นที่รู้จัก และยืนหยัดในฐานะแบรนด์รองเท้าระดับตำนานที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

 

 

VANS ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ประมาณปี คศ.1966 จากชายหนุ่มผู้ชื่นชอบในเสน่ห์ของรองเท้า เขามีชื่อว่าพอล แวน ดอเรน (Paul Van Doren) ก่อนที่พอลจะมาเปิดกิจการเป็นของตัวเอง ตัวเขาได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานในบริษัทรองเท้ามากว่า 20 ปี ด้วยความที่พอลอยากมีรองเท้าในแบบที่ตนเองชื่นชอบทำให้เกิดความต้องการที่จะมาเปิดบริษัทผลิตรองเท้าเป็นของตัวเอง โดยใช้ชื่อว่าแวน ดอเรน เดอะ รับเบอร์ (Van Doren The Rubber) ซึ่งพอลได้ดึงเอาช่างที่มีความชำนาญในเรื่องของกระบวนการการผลิตรองเท้าในแต่ละแขนงมาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรของเขา และยังคงยึดคอนเซ็ปต์เดิทในเรื่องของการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับผลงานที่ผลิต

 

 

ในช่วงแรกแบรนด์ของพอลพบเจออุปสรรคมากมายเนื่องจากว่าทีมงานของเขาส่วนใหญ่จะมุ้งเน้นไปที่แผนกผลิต ไม่มีใครที่ชำนาญในเรื่องของระบบทางการตลาด แต่ด้วยไหวพริบอันฉาญฉลาดของพอลทำให้เขาสามารถก้าวข้ามผ่านจุดวิกฤตต่างๆ รวมถึงการวางรากฐานให้กับแบรนด์ได้อย่างสวยงาม

 

 

 

หลังจากนั้นสตีฟ แวน ดอเรน (Steve Van Doren) ลูกชายของพอลได้รับช่วงต่อในการดูแลแบรนด์ซึ่งเขาเองถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้แวนส์เป็นที่รู้จักในนามของสุดยอดไอเท็มสตรีทแฟชั่น ที่ได้รับความนิยมล้นหลามจากชายหนุ่มทั่วโลก หลังจากนั้นแวนส์ก็ได้ปล่อยรองเท้าในคอลเลคชั่นต่างๆ ออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ และก็เป็นไปตามความคาดหมาย เกือบทุกรุ่นของแวนส์ โดยเฉพาะรุ่นลิมิเต็ตอิดิชั่น ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า และขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน นั่นหมายถึงความสำเร็จ และความมั่งคั่งของแบรนด์ในธุรกิจสายนี้

 

 

ฝันร้ายอีกครั้งของแวนส์ คือการถูกฟ้องล้มละลายจากรายจ่ายของวัสดุที่นำมาใช้มีราคาสูงขึ้นไม่คุ้มค่ากับราคาขาย ซึ่งจุดหักเหนี้ทำให้แวนส์ต้องแบกภาระหนี้สิน และโดนฟ้องล้มละลายในที่สุด โดยมีคำสั่งของศาลที่จำเป็นต้องเปลี่ยนผู้บริหาร และผู้ถือหุ้น ซึ่งทำให้พอล และสตีฟจำเป็นต้องลดบทบาทของตนเองลง และยินยอมให้บริษัทอย่าง McCown De Leeuw & Co.,Ltd เข้ามาดูแลกิจการต่อไป

 

 

จากประวัติที่กล่าวมาทั้งหมดเชื่อได้เลยว่าคุณผู้อ่านที่ชื่นชอบแวนส์คงจะได้รับรู้ถึงเส้นทางการประสบความสำเร็จว่ากว่าจะมาเป็นแบรนด์ชั่นนำได้จนถึงปัจจุบัน แวนส์ต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง จงจำไว้ว่าความพยายาม และความอดทนเป็นเครื่องพิสูจน์ความเข้มแข็งของมนุษย์ เพียงแค่เรากล้าที่จะลุคขึ้นสู้ เชื่อได้เลยว่าเส้นชัยก็อยู่ไม่ไกลจากตัวเรา