HISTORY OF DR.MARTENS

ถ้าพูดถึงเสื้อผ้าว่าเป็นของคู่กายแล้ว รองเท้าก็น่าจะเป็นหนึ่งในไอเทมที่ใครหลายๆ คนขาดไม่ได้เช่นกัน และหนึ่งในแบรนด์รองเท้าที่มีประวัติมายาวนานอย่าง DR. MARTENS (ดร. มาร์ตินส์ ) ที่ถือกำเนิดจากความทรงจำที่มีโอกาสสื่อสารความเป็นตัวเองและแสดงความสร้างสรรค์ จนถึงทุกวันี้ดร. มาร์ตินส์ยังคงเหมือนเดิม โดยยังคงสไตล์ที่ไม่เหมือนใครและคำนึงถึงความสะดวก สบายคล่องตัวในเวลาเดียวกัน

 

 

รองเท้าแบรนด์ดร. มาร์ตินส์ ถูกคิดค้นโดย ดร. เคลาส์ มาร์ตินส์ (Dr.Klaus Maertens) นักประดิษฐ์คิดค้นชาวเยอรมัน อาศัยอยู่ที่เมืองซีฮอปท์ซึ่งอยู่ใกล้นครมิวนิค ประเทศเยอรมนีแต่เมื่อปี 1945 ดร. เคลาส์ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เขาจึงคิดค้นรองเท้าที่รองรับน้ำหนักและเพิ่มความสบายให้กับเท้าของเขาเองโดยทำจากพื้นรองเท้าแบบเบาะอากาศ (Air-Cushioned)

 

 

ซึ่งในตอนแรกดร. เคลาส์เพียงแค่จะรักษาอาการบาดเจ็บที่เท้าเท่านั้น ก่อนจะนำรองเท้าต้นแบบไปพัฒนาร่วมกับเพื่อนวิศกร ดร. แฮเบิร์ท ฟังค์  (Dr. Herbert Funk) โดยได้บริษัทสัญชาติอังกฤษอย่างบริษัท R Griggs and Co มารับหน้าที่เป็นผู้ผลิตรองเท้าให้

 

 

โดยเอกลักษณ์ของรองเท้ายี่ห้อนี้คือ การเย็บรองเท้าด้วยด้ายสีเหลือง ลายร่องพื้นรองเท้าและห่วงแขวนที่ข้อ ซึ่งได้รับความนิยมและแพร่หลายอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานหนัก ตำรวจ ไปรษณีย์ จนเข้าสู่กลุ่มวัฒนธรรมของวัยรุ่นที่มีสไตล์ที่แตกต่างเพื่อตอบสนองความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคลจวบจนปัจจุบัน

 

 

สำหรับรองเท้า ดร. มาร์ตินส์ เริ่มเดินสายรองเท้าบู๊ทคู่แรกเมื่อวันที่ 1 เมษายน 1960 โดยประเดิมด้วยรุ่น Dr. Martens 1460 ซึ่งรูปทรงยังคงเป็นต้นแบบของรองเท้าที่ฮิตตลอดกลาลของวัยรุ่นและหลากหลายคนที่ชอบใส่รองเท้าแบรนด์นี้ ซึ่งนับว่าเป็นเวลาอันยาวนานตั้งแต่กระบวนการผลิตที่ปรับปรุงพัฒนาให้สมบูรณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การตัดหนังดิบไปจนถึงประสานแผ่นหนังด้วยความร้อนจากแผ่นเหล็กร้อนที่เชื่อมพื้นรองเท้าด้านบนและด้านล่างด้วยเทคนิคการเชื่อมให้เกิดเบาะอากาศ (Air-Cushioned) ที่ไม่ใช่แค่ให้รองเท้าดูเอกลักษณ์แต่ยังช่วยถนอมเท้าอีกด้วย

 

 

ส่วนรองเท้า ดร. มาร์ตินส์ ในกลุ่ม “ Made In England” ยังคงผลิตที่โรงงาน Cobbs Lane ประเทศอังกฤษซึ่งเป็นผู้ผลิตรองเท้าให้กับตระกูล Griggs และมีความพิเศษตรงที่ประดิษฐ์โดยช่างทำรองเท้าฝีมือดีที่ผ่านการอบรมการผลิตรองเท้าแบบดั้งเดิมและใช้กระบวนการพิเศษที่ทำให้รองเท้าดร. มาร์ตินส์ มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนรองเท้าคู่ไหนและครองใจหนุ่มสาวในหลากหลายไลฟ์สไตล์ตลอดจนถึงทุกวันนี้