DIOR HOMME • Winter 2018-2019

ความเยาว์วัย คือ อิสรภาพในการปลดปล่อยอารมณ์เพื่อที่จะทำให้อุดมการณ์กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แต่ด้วยอายุ คือการมองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองภายนอก ผลงานคอลเลคชั่น Dior Homme Winter 2018-2019 ที่ออกแบบโดยคริส แวน แอซช์ (Kris Van Assche) คือการตั้งคำถามการตั้งอยู่คู่กันของสองสิ่งที่กล่าวมานี้

  

ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของความหมายแห่งความเป็นทางการและไม่เป็นทางการที่นิยามเสื้อผ้าผู้ชายในปัจจุบัน การรื้อทำลายอย่างประณีตเพื่อทำความเข้าใจในชุดสูทดิออร์ ออมม์ ทำให้ค้นพบสัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมการสักในยุค 90 ซึ่งนำมาสู่ความประณีตของงานสร้างสรรค์เสื้อผ้าผู้ชายที่ขนานไปกับความโหยหาไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง

  

การสร้างสรรค์ครั้งนี้นับเป็นการคารวะต่อการทำแพทเทิร์นอันประณีตของเมอซิเออร์ ดิออร์ เสื้อ Bar Jacket อันโก้หรูและหลากหลายคือข้อพิสูจแห่ง “Savoir-Faire” หรือเทคนิคของแฟชั่นเฮ้าส์แห่งนี้ ผ้าวูล Grain de Poudre สีดำผ่านการตัดเย็บอันพิถีพิถันกลายเป็นแจ็คเก็ตสูทพร้อมปกที่แคบและยาว เย็บปะด้วยกระเป๋าพ็อคเก็ต และกระดุมคู่แบบชุดยูนิฟอร์ม ในความสง่างามอันเป็นที่สุดนั้น ลายแท็ททูได้ปรากฏขึ้นดั่งรูปกราฟฟิคบนป้ายโทเท็มในงานเรฟปาร์ตี้

 

 

ซึ่งมีขนาดต่าง ๆ เป็นลายเดี่ยวหรือปรากฏอยู่ทั่วทั้งคอลเลคชั่น เลเยอร์ลวงตาอันเกิดจากเสื้อเชิ้ตโปโลถักสไตล์คลาสสิค เสื้อกล้าม และเสื้อเสว็ตเตอร์คอเต่าในโทนสีเขียว สีเลือดหมู และสีเหลือง สร้างสรรค์เป็นองค์ประกอบที่ล้อเลียนตู้เสื้อผ้าของวัยรุ่น เทรนช์โค้ทที่เป็นทรงอย่างดีอยู่คู่กับโอเว่อร์โค้ทผ้าแคชเมียร์ ในขณะที่เรื่องของสัดส่วนถ่ายทอดผ่านกางเกงขายาวจับพลีทที่ตัดจากผ้าวูลชุดสูทและเดนิมฟอก สวมทับด้วยเสื้อตัวนอกอย่างพาร์กาไนลอนตัวสั้น โค้ทบุนวม ผ้าขนแกะ และโค้ทกันลมที่ผ่านการตัดเย็บด้วยเทคนิคพิเศษ

 

 

กระเป๋า Dior มาในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าขนาดเล็กสองใบที่เกี่ยวอยู่ด้วยกันเสมือนกระเป๋าที่มีซิปหลายอันแบ่งเป็นช่องต่าง ๆ และมีสายสะพายไหล่ หรือกระเป๋าสไตล์กระเป๋าเดินทางทำจากหนังเอ็กซอติกส์ที่ดูหรูหราและลงตัว ส่วนรองเท้า นำเสนอในสไตล์โบร๊ก (Brogue) ตกแต่งด้วยลายแท็ททูที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคนิคเลเซอร์พริ้นต์ นอกจากนี้มีรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสูง ซึ่งสื่อถึงซิลูเอ็ตสไตล์สตรีทและงานจากช่างฝีมือที่จะตอกย้ำความเป็นวัยรุ่นและความเป็นชายไปตลอดกาล