DIESEL • Make Love Not Walls

ภายใต้แคมเปญ #makelovenotwalls ของ Diesel นำเสนอภาพถ่ายและซีรี่ย์กิจกรรมที่จะจัดขึ้นทั่วโลก เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของการทำลายกำแพงทั้งกำแพงจริงตรงหน้าและกำแพงทางจิตใจที่แบ่งแยกทุกคนออกจากกัน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาใช้เวลาร่วมกันในนามของความสามัคคีและความรัก เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่ความเกลียดชัง กำแพง และความกลัวดูจะปกคลุมไปทั่วทุกหัวระแหง

 

 

 

Diesel ต้องการที่จะทำลายกำแพงเหล่านี้ให้หมดสิ้นไปจากโลกด้วยการบอกทุกคนผ่านแคมเปญนี้ว่า วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นเป็นสิ่งที่พวกเราทำให้เกิดขึ้นได้ “เรามีจุดยืนที่ชัดเจนในการไม่ยอมรับความเกลียดชัง และเราอยากให้ผู้คนทั่วโลกรู้ว่านั่นคือสิ่งที่เราคิดและเชื่อถือมาโดยตลอด” นิโคลา ฟอร์มิเชตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ อธิบาย ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ความรักและการอยู่ร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคมที่พวกเราทุกคนอยากอาศัยอยู่ด้วยกัน และนั่นคืออนาคตที่พวกเราสมควรจะได้รับ”

 

เดวิด ลาชาเปลล์ ศิลปินและช่างภาพระดับโลกชาวอเมริกันผู้เชื่อในความหลากหลายและสิทธิ์ของปัจเจกบุคคลทั่วโลก ได้เข้ามาร่วมทำงานกับนิโคลา ฟอร์มิเชตติในแคมเปญนี้เพื่อทลายทุกกำแพงในโลกนี้ ทั้งกำแพงทางจิตใจและกำแพงจริงผ่านแคมเปญการสื่อสารที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยบริษัทอโนมาลลี อัมสเตอร์ดัม (Anomaly Amsterdam)

 

 

 

โดยนำ “กำแพง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายของการแบ่งแยก มาทำลาย เพื่อสร้างเรื่องเล่าที่หนักแน่นและน่าสนใจผ่านงานภาพที่รังสรรค์ขึ้นจากแนวคิดทั้งหมดนี้ กำแพงถูกสร้างขึ้น ทว่ารถถังแห่งความรักก็ก้าวเข้ามาทำลายกำแพงนี้ลง โดยระเบิดกำแพงออกเป็นรูปหัวใจ บิดสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกให้กลายเป็นสถานที่แห่งความสุขที่เต็มไปด้วยดอกไม้สำหรับการเฉลิมฉลองอิสรภาพและความรัก และด้วยการทำเช่นนี้เท่านั้นที่จะทำให้คุณมีอิสระที่จะน้อมรับความเป็นจริงกับตัวคุณเอง พร้อมทั้งมีอิสระที่จะรักใครก็ตามที่คุณอยากจะรัก

 

“ในแคมเปญของ Diesel ที่เดวิด ลาชาเปลล์เป็นผู้สร้างสรรค์ไว้ในปี 1995 มีภาพของกะลาสีชายหนุ่ม 2 คนกำลังจูบกัน จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ดีเซลแสดงให้เห็นชัดเจนเสมอว่า เราไม่เคยหยุดนิ่งในการก้าวข้ามกรอบหรือขีดจำกัดต่างๆ เราต้องกล้าที่จะทำลายกำแพงหรืออุปสรรคใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ช่วงเวลาที่ความกลัวทำให้โลกของเราเกิดกำแพงที่มาแบ่งแยกพวกเราออกจากกันอย่างไม่มีสิ้นสุด” เรนโซ รอสโซ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Diesel กล่าว

 

 

 

รถถังเป่าลมสีรุ้งที่ถูกนำมาใช้ในแคมเปญนี้ได้ถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่ลอนดอนเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ก่อนจะไปแพร่กระจายความรักต่อที่มิลาน เซี่ยงไฮ้ นิวยอร์ก เบอร์ลิน และโตเกียวต่อไป ทั้งนี้ การเลือกใช้รถถังสีรุ้ง เป็นการสื่อนัยของการเลือกยุทโธปกรณ์ทางทหารมาทวิสต์ความหมายและวัถตุประสงค์ในการใช้งานเสียใหม่ ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง เพราะรถถังซึ่งเคยเป็นสิ่งที่แบ่งแยกพวกเราออกจากกัน ได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเราได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง