When headache not just a headache
- 28 สิงหาคม 2561
-
2,099
“ขอพารา 2 เม็ด” คุณอาจจะกำลังประมาทกับอาการปวดของคุณเกินไปหรือเปล่าเพราะไม่ใช่ยาพาราที่แสนคุ้นเคยจะแก้ไขอาการปวดให้คุณได้ตลอดเพราะจริงๆแล้วถ้าจะเอาให้แน่คุณจำเป็นต้องรู้อาการปวดที่แน่ชัดและตัวยาที่เหมาะสมกับอาการปวดอีกด้วย และถ้าอาการเหล่านี้มันเริ่มจะติดตามคุณมาจนใกล้จะเป็นเงาตามตัวแล้วล่ะก็…มันคงถึงเวลาที่จะต้องมารู้ทันและไหวตัวกันบ้างแล้ว
มาเริ่มต้นจากการสังเกตอาการปวดหัวของตัวคุณเองกันก่อนดีกว่าว่าเวลาคุณปวดหัวมันมักมีอาการเริ่มมาจากอะไรบ้าง ใช่จากการทำงานหนักลืมพักสายตาไหม หรือเป็นเพราะความเครียดจากความกดดันของสภาพแวดล้อมรอบข้าง คุณนอนมากเกินไป ลืมทานอาหารหรือเปล่า รวมทั้งคุณมีโรคประจำตัวอยู่ใช่ไหม และอีกหลากหลายสาเหตุที่มันล้วนมีส่วนสำคัญไม่ใช่เพียงพูดว่า “ปวดหัว” เท่านั้น
มาเริ่มสังเกตที่จุดแรกกัน
- ปวดหัว ปวดคอ แถมยังมีไข้ด้วย
ถ้าพูดต่อไปคุณอาจจะตกใจเพราะมันมีข้อสันนิษฐานว่าคุณอาจจะเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบเลยทีเดียวซึ่งบอกได้เลยว่ามันค่อนข้างอันตรายมากเพราะอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบนั้นจะเป็นการอักเสบของเยื่อที่อยู่รอบสมองยาวไปจนถึงไชสันหลังอาการนี้กินพื้นที่สร้างผลกระทบอยู่มากเลยทีเดียวแถมมันยังอันตรายได้ถึงชีวิตเลยทีเดียวเอาเป็นว่าถ้าอาการปวดหัวของคุณมันมีขอบเขตประมาณนี้พับจอคอมโยน Smart Phone ทิ้งแล้วพาตัวเองไปพบแพทย์เลยจะชัวร์สุด
- ปวดหัวแล้วคลื่นไส้ด้วย
แค่คิดตามก็รู้สึกว่ามันจะต้องทรมานมากๆอย่างแน่นอนเพราะแม้ว่าคุณจะนั่งอยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกทั้งปวดและคลื่นไส้เวียนหัวและอาจลามหนักไปถึงการอาเจียนอย่างรุนแรงได้ด้วยอาการเหล่านี้คุณอาจจะกำลังเผชิญอยู่กับความผิดปกติของระบบประสาทอยู่ก็เป็นได้และมันคือสัญญาณของโรคหลอดเลือดตีบตันนั่นเองถ้าจะพูดให้ชัดเจนและคิดออกกันมากขึ้นมันคือสาเหตุของการเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตนั่นเองซึ่งอาการพวกนี้มักจะเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน
- ปวดหัวแบบไม่เคยปวดรุนแรงขนาดนี้มาก่อน
ทั้งสับสนทั้งปวดหัวอยู่ ๆ ร่างกายของคุณมันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกันแต่ความหมายของมันนั้นร่างกายอาจจะกำลังอยากบอกคุณว่ากำลังมีภาวะเลือดโป่งพองในสมองนั่นเองซึ่งมันอาจจะรุนแรงจนพาคุณไปถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตกเลยก็เป็นได้
แค่ที่พูดมาสามอาการข้างบนคุณคงเครียดกันแล้วถ้าบังเอิญกำลังเผชิญกับมันอยู่…หายใจลึกๆคุณแค่ควรรีบไปพบแพทย์แล้วทุกอย่างจะค่อยๆคลี่คลายลงอย่างแน่นอนเพียงแค่คุณไม่ประมาทปล่อยมันเอาไว้รวมทั้งอาการปวดหัวแบบต่าง ๆ ที่ทาง MetroSociety กำลังจะแนะนำเพิ่มเติมอีกไม่ว่าจะเป็น
- ปวดหัวทันทีหลังจากที่ทำกิจกรรมออกแรงหนัก ๆ ยกน้ำหนัก ออกกำลังกาย หรือแม้แต่หลังมี Sex
- ปวดหัวแล้วก็เริ่มบังคับการพูดได้ยากขึ้น พูดไม่รู้เรื่อง แขนขาก็เริ่มบังคับได้ยากหรือบังคับไม่ได้
- ปวดหัวแล้วลืมทุกสิ่งทุกอย่างความทรงจำของคุณได้หายไปแล้ว
- ตลอด 24 ชั่วโมงที่ต่อเนื่องกันคุณจมอยู่กับภาวะปวดหัวแบบดูท่าจะไม่หายไปเลยแม้แต่นิด
- ถ้าคุณโดนอะไรกระทบกระเทือนมาที่หัวแล้วก็ปวดที่จุดนั้นอยู่นี่คืออาการผิดปกติแน่นอน
- มองกระจกให้ดี ๆ ในดวงตาของคุณมีรอยแปลก ๆ อยู่หรือไม่แถมมันยังมาพร้อมกับอาการปวดหัวอีกด้วยแถมมันยังปวดแบบรุนแรงสุด ๆ
- เคี้ยวข้าวอยู่ดี ๆ ปวดหัวจี๊ดเฉยเลยนี่ไม่ใช่เรื่องปกติอีกเช่นกัน
- ปวดหัวแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าสายตาของคุณมีความผิดปกติไปจากเดิม
- มีโรคมะเร็งเป็นโรคประจำตัวแถมยังมาปวดหัวเพิ่มเข้าไปอีกคุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ด่วน ๆ
ถ้าที่พูดมาทั้งหมดอาจจะดูหนักไป…มาดูอาการปวดหัวแบบอื่นกัน
ที่ยกตัวอย่างมาข้างบนอาจจะดูผลกระทบร้ายแรงไปคุณบางคนอาจจะแค่ปวดหัวจากการทำงานหรือใช้สายตาหนัก ๆ สังเกตได้เลยว่ามันอาจไม่ได้หนักแบบอาการข้างบนแต่ในเมื่อคุณยังมีอาการปวดหัวอยู่สิ่งที่คุณต้องทำก็คือไม่นิ่งนอนใจมาหาสาเหตุการปวดและไปรักษาให้ถูกวิธีกันต่อไป
1. ปวดหัวเพราะนอนเกินเวลา
นี่น่าจะเป็นอาการประจำวันศุกร์เสาร์หรือวันหยุดยาวๆที่ทำให้หลายๆคนเฝ้ารอและต้องการอยากจะได้สัมผัสกันเสียทีก็เลยจัดเต็มนอนกันแบบมาราธอนเท่าไรเท่ากันไปเลยพอตื่นขึ้นมาอีกทีก็อาจจะกินเวลาตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกกันเลยทีเดียวเอาล่ะคุณก็เลยต้องเผชิญกับอาการปวดหัวแบบหน่วงๆมึนๆหลังจากที่ตื่นและมันอาจจะทำให้เวลาวันหยุดของคุณต่อจากนั้นต้องเผชิญกับอาการปวดแบบนี้ไปอีกสักพักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว
เอาเป็นว่าดื่มน้ำเยอะ ๆ หายใจลึก ๆ อย่าเพิ่งเติมคาเฟอีนเข้าไปในร่างกายแล้วก็เข้านอนตามปกติในระยะเวลาที่เหมาะสมอาการเหล่านี้ก็จะค่อย ๆ หายไปพร้อม ๆ กับวันหยุดของคุณเอง
2. ปวดต่อเนื่องปวดแบบ Non Stop
รู้ตัวอีกทีอาการปวดหัวแบบนี้ก็อยู่กับคุณมาเกือบครึ่งเดือนแล้วและมันอาจล่วงเลยไปจนถึงสามเดือนและดูท่าทีก็ยังจะไม่ยอมหยุด…ไม่ดีแน่ ๆ คุณต้องรีบตั้งสติแล้วอ่านคำแนะนำของ เรากันต่อเลย
เพราะสาเหตุของมันอาจจะมาจากการทานยาแก้ปวดมากจนเกินไปร่างกายก็รับยาในปริมาณที่มากเกินไปพูดจริง ๆ ก็เหมือนเป็นปัญหาซ้อนปัญหากันไปเรื่อย ๆ จนอาจจะลามไปจนกลายเป็นไมเกรนหรือร้ายแรงจนกลายเป็นเนื้องอกในสมองได้เลยทีเดียว
3. ตื่นเช้ามาก็ปวดหัวตลอด
ปวดตุบ ๆ บางทีมันก็เหมือนจะหนักหัวจนลุกจากเตียงกันแทบไม่ไหวอาการปวดแบบนี้อาจจะส่งผลไปถึงชีวิตประจำวันของคุณได้เลยทีเดียวสาเหตุหลักๆของมันสามารถเกิดขึ้นได้จากทั้งไมเกรนโรคเครียดปวดเพราะมีความผิดปกติของฟันโดยที่คุณอาจจะไม่รู้ตัวมาก่อนนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการนี้ยังเป็นความคลุมเครือแต่แน่นอนว่าถ้าคุณสังเกตตัวเองกันดีๆ ก็จะสามารถรู้ได้แน่นอนว่ามันเกิดจากสาเหตุอะไร
4. อัดคาเฟอีนเยอะเกินไป
คาเฟอีนไม่ใช่แค่สิ่งที่สามารถทำให้คุณตื่นตัวได้เท่านั้นแต่มันยังสามารถทำให้คุณปวดหัวได้ด้วยถ้าคุณได้รับมันมากจนเกินไปเพราะมันจะทำให้ภายในของคุณขัดแย้งกันจนเป็นผลให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอนั่นเองโดยอาการปวดหัวจากคาเฟอีนนั้นจะปวดแบบตื้อ ๆ หนักหัวอาจจะมีอาการเวียนหัวร่วมด้วยและยังสามารถปวดลามไปจนถึงกระบอกตาและรู้สึกตุบ ๆ อยู่ตลอดเวลาอีกด้วย
5. ปวดเพราะไมเกรน
อาการปวดยอดฮิตที่มักได้ยินชื่อกันบ่อย ๆ และมีสถิติคนที่ปวดหัวแบบนี้ในเมืองไทยมากกว่าร้อยละ 17 เลยทีเดียวและแน่นอนว่ามันสร้างความทรมานให้กับคุณได้มากทีเดียวโดยอาการปวดไมเกรนจะเป็นอาการที่มีการปวดเพียงข้างใดข้างหนึ่งของหัวถ้าใครเป็นหนักมาก ๆ ก็จะเวียนหัวและอาเจียนด้วย
อาการปวดแบบนี้ถ้าเป็นแล้วต้องทำใจในเรื่องระยะเวลาการรักษาเพราะจะใช้เวลาค่อนข้างนานและยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แท้จริงของการเป็นไมเกรนได้แต่เท่าที่บุคลากรทางการแพทย์ได้ลองวิเคราะห์แนวทางความเป็นไปได้นั้นอาการปวดไมเกรนนั้นคาดว่ามาจากเรื่องของสารเคมีในสมองรวมทั้งอาจจะมาจากความเครียดเรื้อรังรวมทั้งในเรื่องของอาหารการกินและการพักผ่อนไม่เพียงพออีกด้วย
6. ความเครียดตามมาทำร้ายคุณ
แน่นอนเลยว่า MetroSociety เข้าใจในความเครียดที่คุณต้องเผชิญและขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้คุณมีความเครียดลดน้อยลงและหวังว่าอาการปวดหัวแบบหนักๆที่บริเวณขมับทั้งสองข้างเหมือนมีอะไรดันหัวคุณจากข้างในและแน่นอนว่าปวดลามไปต้นคอไหล่และหลังร่วมด้วยที่เป็นอาการปวดที่มีสาเหตุมาจากความเครียดนั้นจะไม่เข้ามาทักทายคุณ
นี่ก็เป็นเหล่าอาการปวดหัวยอดนิยมที่มักจะเกิดขึ้นกับคนรอบ ๆ ข้างและตัวของคุณเองได้ถ้าลองอ่านดูแล้วมีอาการในข้อไหนที่ดูจะเข้าข่ายก็ขอให้รีบไปพบแพทย์และรับคำปรึกษารวมถึงยาตามอาการกันจะดีกว่าเชื่อเถอะว่าแม้จะปวดเพียงเล็กน้อยมันก็คือความผิดปกติอย่าประมาทเพราะถ้ามันเกิดทำร้ายคุณขั้นรุนแรงมันน่าจะทำให้คุณปวดหัวจากความผิดปกติและปวดหัวกับตารางชีวิตต่าง ๆ ที่ต้องจัดการใหม่เพื่อรับมือกับมันนั่นเองถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ถือว่าเป็นอาการปวดหัวซ้ำซ้อนนั่นเอง
อ้างอิง
