The Dangers of Snoring

 การกรนอาจจะเป็นเรื่องขำขันอยู่พอสมควรถ้าบังเอิญคุณและก๊วนเพื่อนได้ไปเที่ยวและพักค้างคืนร่วมกันมันจะต้องมีใครในกลุ่มสักคนแน่ๆที่นอนกรนซะจนเล่นเอาเพื่อน ๆ คนที่เหลือนอนแทบไม่หลับแต่ก็กลับกลายมาเป็นเรื่องสนุกเมื่อได้พูดถึงจังหวะการกรนของพวกเขา

แต่จริง ๆ แล้วสิ่งที่รู้กันดีแต่คุณบางคนอาจจะยังไม่รู้ลึกมากว่าการนอนแล้วกรนนั้นมีความอันตรายแฝงอยู่เรียกได้ว่าตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงขั้นสามารถเอาชีวิตไปได้เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าคุณมีเพื่อนหรือคนใกล้ตัวนอนกรนหรือแม้แต่ตัวคุณเองได้รับเสียงจากคนรอบข้างว่านอนกรนเหมือนกัน คุณควรจะต้องตั้งใจอ่านสิ่งที่ทาง MetroSociety ตั้งใจมากบอกเล่าให้คุณได้รู้กันในวันนี้

 

 

ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจพื้นฐานของการนอนแล้วกรนก่อนว่ามันคืออะไรกันแน่ ซึ่งจริงๆ แล้วการกรนก็คือการไหลเวียนของอากาศที่ผ่านเข้าออกทางจมูกและปากของคุณแต่มันดันมีสิ่งมากีดขวางซึ่งสิ่งที่กีดขวางการกรนจะเป็นอะไรได้บ้างมันก็มาจากหลายสาเหตุเหมือนกันมาเริ่มสังเกตตัวเองกันก่อนว่าเข้าข่ายอาการหรือพฤติกรรมพวกนี้ไหม?

 

1. ใครติดยานอนหลับและแอลกอฮอล์ยกมือขึ้นซะดีๆ 

สังเกตว่าถ้าวันไหนไปดื่มมาล่ะก็จะนอนกรนเพราะว่าเวลาดื่มแล้วร่างกายมีแอลกอฮอล์อยู่นั้นจะทำให้กลายเนื้อของคุณคลายตัวและมากีดขวางระบบหายใจจนทำให้กรนนั่นเองและอีกอย่างก็คือยานอนหลับเพราะหลาย ๆ คนก็คิดว่าถึงจะกรนแต่นอนหลับยาวๆก็น่าจะโอเคดีแต่ก็ยังมีหลาย ๆ คนที่กินยานอนหลับแล้วต้องตื่นขึ้นมาเพราะการกรนของตัวเองก็มีเพราะสาเหตุเดียวกันกับแอลกอฮอล์เลยยานอนหลับมีส่วนทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวจนมาขัดขวางระบบทางเดินหายใจนั่นเอง

 

 

2. คุณเป็นภูมิแพ้อะไรอยู่หรือเปล่า
ส่วนใหญ่คนที่เป็นภูมิแพ้อากาศแพ้ฝุ่นและขนสัตว์ต่างๆนั้นมักจะนอนกรนดังนั้นถ้าสาเหตุของอาการภูมิแพ้ของคุณมันคือสิ่งเหล่านี้ก็รีบหันไปจัดระเบียบทำความสะอาดให้คุณอยู่ห่างไกลความเสี่ยงอาการภูมิแพ้เหล่านี้กันดีกว่าเพราะในเวลาที่คุณเกิดอาการแพ้ขึ้นมานั้นจะทำให้จมูกและระบบหายใจของคุณมีสิ่งมากีดขวางทั้งน้ำมูกเสมหะและการบวมของโพรงจมูกและลำคอนี่แหละคือสาเหตุหลักของการนอนกรนนั่นเอง

 

 

3. อวัยวะช่องปากของคุณอาจจะเกิดความไม่ค่อยสมดุล
ลองไปพบแพทย์และตรวจดูให้แน่ใจกันดีกว่าว่าในส่วนของเพดานอ่อนหรือลิ้นไก่ของคุณนั้นมีความยาวกว่าปกติหรือไม่เพราะมันคือส่วนสำคัญที่ทำให้ทางเดินหายใจที่อยู่หลังจมูกและลำคอนั้นเกิดอาการตีบแคบลงจากนั้นเมื่อเพดานอ่อนหรือลิ้นไก่เกิดสั่นหรือเกิดชนกันขึ้นมาล่ะก็มันจะไปปิดกั้นทางเดินหายใจและทำให้คุณเริ่มกรนนั่นเอง

 

 

4. น้ำหนักตัวเกิน
นี่น่าจะเป็นสาเหตุหลักๆและที่พบได้มากที่สุดของการนอนกรนเลยก็ว่าได้และมันน่าจะเป็นสาเหตุที่หลายๆคนออกมาลดน้ำหนักและออกกำลังกายเช่นกันเพราะการที่พวกเขามีน้ำหนักเกินนั้นมันส่งผลโดยตรงให้เกิดอาการนอนกรนซึ่งถ้าสงสัยกันว่าแล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะก็ลองคิดภาพตามกันดีกว่าเมื่อคุณมีน้ำหนักที่เกินไขมันก็ย่อมกระจายไปตามสัดส่วนต่างๆทั่วร่างกายของคุณซึ่งไม่คงจะไม่เว้นส่วนคอเอาไว้แน่ๆและเมื่อไขมันไปอยู่ตรงคอแล้วก็จะทำให้ระบบทางเดินหายใจภายในเกิดแคบลงและนั่นแหละสาเหตุหลักของการนอนกรนเลย

 

 

5. นอนไม่ค่อยหลับกันใช่ไหม

แค่การนอนหลับกลายมาเป็นเรื่องยากของชีวิตทั้งๆที่มันเป็นกิจกรรมที่คุณสุดจะโหยหาแค่นี้ก็รู้สึกทรมานแล้วแต่การนอนไม่หลับมันยังมีผลต่อมาอีกทั้งทำให้ล้าสมองตื้อคิดอะไรก็ไม่ค่อยออกแถมยังอยากจะมาหลับเอาตอนกลางวันที่ต้องมุ่งมั่นทำงานอีกแน่นอนว่าถ้าเป็นแบบนี้ไปนาน ๆ มันจะมีผลโดยตรงกับสมองของคุณอย่างแน่นอน

 

 

แต่กลับมาเข้าเรื่องกันก่อนคุณอาจจะงงว่าแล้วการนอนไม่หลับมันมาเกี่ยวกับการกรนได้ไงกัน คำตอบก็คือเมื่อร่างกายของคุณล้ามากๆ จากการนอนไม่หลับมันจะส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของคุณนั้นรู้สึกหนักและแน่นไปหมดพอถึงเวลาที่ร่างกายพร้อมจะพักผ่อนกล้ามเนื้อทุกส่วนรวมถึงส่วนคอก็จะเกิดการคลายตัวซึ่งนี่แหละมันไปปิดกั้นระบบทางเดินหายใจจนทำให้เกิดการกรนขึ้นมานั่นเอง

 

6. ท่านอนของคุณเป็นแบบไหนกัน 
ไม่น่าเชื่อว่าท่านอนจะมีผลกับการนอนกรนด้วยแต่ในเมื่อมันเป็นไปแล้วเราก็ควรมารู้สาเหตุที่แท้จริงกันว่าทำไมมันถึงมีผลท่านอนแบบนอนหงายที่เราคุ้นเคยกันดีและอาจจะถูกแนะนำโดยแพทย์หลายๆคนว่ามีความเหมาะกับสุขภาพของกระดูกสันหลังแต่มันกลับมีผลกระทบทำให้คุณนอนกรนได้ยิ่งถ้าคุณคือคนที่นอนหงายและมีน้ำหนักเกินการนอนท่านี้จะทำให้ลิ้นไปแตะกับเพด่านอ่อนปิดกั้นทางเดินอากาศเป็นสาเหตุของการกรนได้นั่นเอง

 

 

7. คุณคือสิงห์นักสูบ
การนอนกรนมีความอันตรายมากมายและการสูบบุหรี่ก็ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการนอนกรนและแน่นอนว่าแม้คุณจะไม่นอนกรนการสูบก็ไม่ได้มีผลดีอะไรกับคุณอยู่แล้วแถมมันยังส่งผลไปถึงการนอนหลับของคุณอีกด้วยข้อแรกของการแก้นอนกรนที่แพทย์แนะนำคือลดน้ำหนักและข้อต่อมาก็คือการเลิกสูบบุหรี่ซะเพราะการสูดดมควันบุหรี่เข้าไปในร่างกายนั้นมีผลทำให้เกิดการระคายเคืองที่เยื่อบุจมูกและลำคอของคุณทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบมาปิดกั้นช่องทางเดินของอากาศเข้าออกในร่างกายได้และเป็นสาเหตุของการนอนกรนนั่นเอง

 

 

แล้วที่ว่าการนอนกรนมันอันตราย…มันขนาดไหนกัน?

การนอนกรนก็มีสาเหตุมาจากข้อต่างๆด้านบนแต่ประเด็นที่สำคัญกว่าก็คือถ้าคุณนอนกรนแล้วมันจะมีผลเสียกับร่างกายของคุณมากมายขนาดไหนเอาเป็นว่าถ้ามันร้ายแรงถึงที่สุดนั่นก็คือมันสามารถคร่าชีวิตของคุณไปได้เลยทีเดียวเพราะการนอนกรนนั้นจะทำให้คุณต้องเจอกับสภาวะหยุดหายใจขณะหลับอ่านดูแล้วชื่อคุ้น ๆ กันดีเลยใช่ไหมและพอจะรู้ถึงอันตรายของมันด้วยใช่หรือเปล่า

 

 

เพราะการหยุดหายใจขณะหลับนั้นมีผลกับคุณมากมายทั้งเหงื่อออกตอนนอนนอนแบบกระสับกระส่ายสะดุ้งตื่นและสำลักแบบรุนแรงเพราะรู้สึกขาดอากาศหายใจตื่นมาก็คอแห้งมากแถมยังปวดหัวพอใช้ชีวิตระหว่างวันก็รู้สึกอ่อนเพลียมากอาการต่างๆที่พูดมามีผลกระทบกับชีวิตประจำวันของคุณมากเลยทีเดียวและมันกำลังก่อตัวใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และหวังมาคอยทำร้ายคุณในระยะยาวอีกด้วย

เมื่อคุณต้องเผชิญกับสภาวะนี้สิ่งหลักๆ ก็คือร่างกายของคุณจะได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอจนส่งผลร้ายไปถึงหัวใจที่อาจทำให้หัวใจวาย สมองและระบบประสาทที่อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงทำร้ายกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของคุณได้อีกด้วย และปัญหาเรื้อรังต่างๆ ที่เกิดจากภาวะหยุดหายใจขณะหลับก็ยังมีตามมาอีกเป็นขบวนเช่น ความดันสูง อาการปวดหัวเรื้อรัง ทำให้คุณอ้วนขึ้นได้ และเกิดอาการเมื่อยล้าอย่างเรื้อรังนั่นเอง

 

ปล่อยไว้ไม่ดีแน่…มาแก้นอนกรนกันดีกว่า
ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าสิ่งแรกที่คุณควรทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาการนอนกรนก็คือการไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกันดีกว่า แต่ทาง Merto Society เข้าใจคุณดีว่าคุณอาจจะไม่มีเวลาไปอย่างทันทีเอางี้ดีกว่าขอแนะนำเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะเอามาแก้ขัดเผื่อว่าได้ผลคุณก็อาจจะลดอาการนอนกรนลงไปได้บ้าง แล้วถ้าจัดคิวได้ก็ค่อยรีบไปพบแพทย์กันเพราะอย่างน้อยคุณก็ควรที่จะตรวจสุขภาพส่วนอื่นๆ ดูให้ละเอียดว่ามันได้รับผลกระทบจากการนอนกรนในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่

 

1. เปลี่ยนท่านอน คุณรู้กันมาเรียบร้อยแล้วว่าการนอนหงายนั้นมีผลให้เกิดการนอนกรนดังนั้นเปลี่ยนท่าซะคุณอาจจะไปหาหมอนข้างมากอดให้นุ่มสบายตัวและเปลี่ยนไปนอนท่าตะแคงจะดีกว่าเพื่อที่มันจะสามารถช่วยคุณลดอาการนอนกรนได้บ้าง

 

 

2. ลดน้ำหนัก ข้อนี้ทำเอาข้อแรกง่ายสุด ๆ ไปเลยแต่อย่างไรคุณก็จำเป็นที่จะต้องทำเพราะการลดน้ำหนักเป็นเหมือนหัวใจสำคัญที่จะเข้ามาช่วยให้คุณลดอาการนอนกรนได้แม้อาจจะไม่หายขาดแต่มันจะเบาลงไปมากตามน้ำหนักที่คุณลดได้เลยทีเดียว

 

 

3. แอลกอฮอล์ห่างไว้ไกลกรน ก็ในเมื่อมันอาจจะพอมีส่วนทำให้เลือดลมของคุณไหลเวียนดีและเพลินๆสนุกไปกับบรรยากาศได้แต่ในเมื่อคุณกำลังต้องเผชิญอยู่กับการนอนกรนที่มีผลเสี่ยงต่อคุณถึงชีวิตแบบนี้แล้วการหยุดดื่มน่าจะเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหม

 

 

4. ทำให้จมูกของคุณโล่งเข้าไว้ ลองอาบน้ำอุ่น ๆ ก่อนนอนรวมทั้งหมั่นล้างจมูกด้วยน้ำเกลือกันดูบ้างดีไหมหรืออาจจะหาวิคส์วาโปรับมาทาที่หน้าอกของคุณก่อนนอนเพื่อช่วยเปิดทางให้ช่องทางเดินหายใจโล่งโปร่งสบายพร้อมสูดออกซิเจนเข้าไปในเต็มปอดและห่างไกลจากการนอนกรนแล้วออกซิเจนที่ได้รับเต็มที่ในขณะนอนนั้นก็เชื่อได้เลยว่าคุณจะตื่นมาพร้อมกับความสดใสแน่นอน

 

 

สุดท้ายนอกจากตัวของคุณเองที่จะสามารถดูแลร่างกายให้แข็งแรงตลอดเวลาได้แล้วนั้นเมื่อร่างกายของคุณอ่อนแอและพบเจอกับสภาวะที่ไม่คุ้นเคยอย่ามัวแต่หาคำตอบผ่านทางโลกออนไลน์คุณควรรีบวางมันแล้วไปพบกับคนที่ช่วยคุณได้ดีในโลกแห่งความจริงนั่นก็คือเหล่าแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญนั่นเอเพราะในตอนนี้โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นั้นมีความซับซ้อนมากกว่าที่คุณคิดเยอะมากการใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาทคอยรักและใส่ใจตัวเองอยู่เสมอนี่คือคุณสมบัติที่ดีและเมื่อคุณทำมันได้แล้วการที่คุณอยากจะหันไปดูแลคนใกล้ๆตัวเพิ่มก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร

 

---

 

อ้างอิง
- webmd.com
- thesnorewhisperer.com