Bipolar Alert

• วิธีเฝ้าระวังอาการไบโพลาร์

BY Manop

  • 22 กุมภาพันธ์ 2561
  • 2,943

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในสังคมเมือง มีสิ่งเร้าทางอารมณ์แวดล้อมอยู่รอบ  ตัว ที่อาจทำให้คนมีความรู้สึกซึมเศร้าและทางตรงกันข้ามบางสิ่งเร้าอาจทำให้คน  เดียวกันมีความรู้สึกดีใจอย่างผิดปกติ โดยอาการที่ว่าอาจเป็นสลับกันอยู่นานนับสัปดาห์ ส่งผลกระทบกับการงาน การเรียน การใช้ชีวิตประจำวันจนผู้ที่มีอาการไม่อาจใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปกติได้

ส่งสัญญาณเบื้องต้นว่าคืออาการไบโพลาร์

 

 

แล้วอะไรผิดปกติ ? กลไกอาการไบโพลาร์ มาจากสารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติ หรือสมองส่วนควบคุมอารมณ์ทำงานผิดปกติ ทำให้สารเคมีในสมองเปลี่ยนไป เมื่อผู้ที่มีอาการพบสิ่งเร้าที่มีผลกดดันทางจิตใจมากระตุ้น อาการจะแสดงออกมา โดยผู้ที่มีอาการเริ่มมีอารมณ์ซึมเศร้า ไม่สนใจกับกิจกรรมรอบ ตัว ที่เคยทำ การนอนหลับเปลี่ยนไป นอนไม่หลับ หรือหลับ ตื่น กระวนกระวายอยู่ไม่สุข สมาธิความจำแย่ลงหงุดหงิดท้อแท้ จนอาจคิดสั้นฆ่าตัวตาย สลับกับอารมณ์ร่าเริงเป็นสุข มนุษยสัมพันธ์ดี เบิกบานใจมีความเชื่อมั่นมาก บางคนอาจคิดว่าตนวิเศษมีอำนาจลึกลับ พูดเร็ว ความคิดแล่นเร็ว ผู้ที่มีอาการรุนแรงคำพูดจะเร็ว คนรอบตัวจะฟังเข้าใจยาก

 

 

ผลกระทบกับคุณภาพชีวิต เนื่องจากผู้ที่มีอาการจะมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปกับสิ่งเร้าที่มากระตุ้นได้ง่าย ยับยั้งใจไม่ได้ พฤติกรรมจะกระทบกับคุณภาพชีวิตต่อไปนี้

 

การดำเนินชีวิตทางสังคม เมื่อมีงานเลี้ยงสังสรรค์ ผู้ที่มีอาการอารมณ์จะร่าเริงเป็นสุข มนุษยสัมพันธ์ดี ทำให้อยากดื่มสุรามาก ส่งผลให้มีอาการเมามายจนเสียภาพลักษณ์ตนเอง และเวลาโทรศัพท์จะสนทนากับคู่สายนานกว่าปกติ ส่งผลให้เสียเวลาทำงานกิจวัตรประจำวัน ขณะที่มีอารมณ์ซึมเศร้า มีพฤติกรรมรุนแรงจะสร้างปัญหาความรุนแรงกับคนในสังคม

การทำงานประกอบอาชีพ อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง ผู้ที่มีอาการจะมีพฤติกรรมวอกแวก ไม่อดทนทำงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ไม่นาน ความเชื่อมั่นในตนเองมากผู้ที่มีอาการจะทำงานเยอะแต่ไม่เสร็จเป็นชิ้นงานส่งผลให้งานล่าช้า การยับยั้งใจน้อย พูดไม่หยุดเอาแต่ใจตนเอง คราใดที่หัวหน้างาน หรือไม่เพื่อนร่วมงานกระตุ้นอารมณ์โกรธ ผู้ที่มีอาการจะโกรธรุนแรงอาละวาดเมื่อมีเพื่อนร่วมงานหรือคนรอบตัวขัดขวาง

ครอบครัว สำหรับผู้ชายที่มีอาการแต่งงานมีคู่แล้ว อาการไบโพลาร์อาจสร้างปัญหา ทะเลาะทำร้ายภรรยา และลูกเป็นปัญหาความรุนแรงในครอบครัวจนกระทั่งหย่าร้าง แยกทางกัน 

 

 

อ่านแล้วรู้สึกกลัวว่าจะมีอาการ แล้วจะป้องกันอย่างไรดี

การป้องกันไม่ให้มีอาการไบโพลาร์ย่อมดีกว่าการแก้ไขเสมอ อย่างน้อยที่สุดจะไม่มีปัญหาเรื่องการงาน สังคมและความรุนแรงในครอบครัว เริ่มจากปรับพฤติกรรมตนเองใหม่ โดยดูแลสุขภาพออกกำลังกาย มีกิจกรรมคลายความเครียดร่วมกับสภาพแวดล้อมใกล้ตัว อย่างครอบครัว เพราะอย่างน้อยการออกกำลังกายร่างกายจะกระตุ้นการหลั่งโฮโมนด์บางตัวออกมาปรับสารเคมีในสมองให้สมดุล การมีกิจกรรมร่วมกับครอบครัวจะประสานความห่วงใยกันและกัน

 

 

คอยเฝ้าระวังความผิดปกติทางจิตใจ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยใหม่เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศโดยเฉพาะที่ห้องนอนจะกระตุ้นการนอนหลับ เพราะคนที่นอนหลับเพียงพอสภาพอารมณ์จะปกติ เปลี่ยนทัศนคติใหม่ว่าการไปพบและปรึกษาปัญหากับจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องอับอาย อย่างน้อยเป็นการไปตรวจสุขภาพจิต เหมือนกับการไปตรวจสุขภาพกายคงเป็นการป้องกันไม่ให้มีอาการไบโพล่าร์ก่อนที่จะสายเกินไป       

 

 

สภาพสังคมเมืองสมัยใหม่ที่เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงกว่าเดิมและสภาพเศรษฐกิจโดยรวมย่ำแย่ ย่อมส่งผลให้คนมีความเครียดสูง และความเครียดที่สูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้บางคนมีปัญหาผิดปกติทางอารมณ์ เนื่องจากสภาพอารมณ์แต่ละคนมีความอ่อนไหวกับสิ่งเร้าที่มากระตุ้นต่างกัน การฝึกการทำสมาธิทำให้จิตใจสงบนิ่งและมั่นคง ไม่หวั่นไหวง่าย จะป้องกันอาการไบโพลาร์ได้ในระดับหนึ่ง.

 

 


 

เอกสารอ้างอิง

  • การทบทวนองค์ความรู้และงานวิจัยเกี่ยวข้องเรื่องระบาดวิทยาปัญหาสุขภาพจิต และโรคทางจิตเวช / บรรณาธิการ,พิเชฐ อุดมรัตน์  กรุงเทพฯ : สำนักงานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก, 2547
  • จิตวิทยาอปกติเบื้องต้น: เอกสารประกอบการสอนวิชา 459 242 ปีที่พิมพ์: 2546 ภาควิชาจิตวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   
  • เว็บไซต์ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี