5 Worst Diet Tips

BY Poy T.

  • 08 ตุลาคม 2561
  • 2,028

พอพูดถึงการลดน้ำหนักสิ่งที่คิดขึ้นมาได้ในหัวเป็นเรื่องแรก ๆ ก็คงไม่หนีพ้นเรื่องของการออกกำลังกายและการกินนั่นเองซึ่งแน่นอนเลยว่าอาจจะมีหลาย ๆ คนที่เน้นกินน้อยและออกกำลังกายกันแบบสุดเหวี่ยงเรียกได้ว่าวิ่งกันทีก็เอาให้เหงื่อท่วมตัวร่างกายหมดแรงกันไปเลยเพราะคิดว่ามันต้องผอมแน่ ๆ

 

แต่เอาล่ะวันนี้ขอเริ่มต้นด้วยการตั้งค่าแนวคิดในการออกกำลังกายของคุณใหม่กันก่อนไม่ว่าก่อนหน้านี้คุณจะคิดว่าอะไรก็ตามแต่เราอยากขอแนะนำให้คุณอินตามประโยคที่ว่า “คุณควรออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงไม่ใช่เพื่อรูปร่างที่สวยงามอย่างเดียว” ถ้าคุณมุ่งมั่นที่จะได้เพียงผลลัพธ์ของตัวเลขบนเครื่องชั่งที่ลดลงอย่างต่อเนื่องแล้วลืมใส่ใจสุขภาพภายในของคุณไปเลยคุณอาจจะต้องหยุดแล้วเริ่มมาเปิดใจเช็คกันต่อเลยว่าสิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้คุณได้ทำมันอยู่หรือไม่…เพราะถ้าคุณทำมันอยู่ล่ะก็คุณน่าจะกำลังเดินอยู่ผิดทางของการลดน้ำหนักแล้วล่ะ

 

 

1. ดื่มแต่น้ำผลไม้

ในตอนนี้มีกระบวนการผลิตน้ำผลไม้ในแบบต่าง ๆ ที่ทำให้คุณได้ทั้งความสดสะอาดและคงคุณค่าไว้อย่างเต็มเปี่ยมและก็น่าจะมีหลาย ๆ คนเลือกที่จะดื่มน้ำผลไม้หลากหลายรสชาติแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าอิ่มท้องแถมยังรู้สึกสดชื่นมากเลยทีเดียวเอาล่ะ! ดื่มเสร็จทิ้งระยะไว้สักพักก็พร้อมออกไปคาร์ดิโอกันแล้ว

  

ถูกต้อง! การดื่มน้ำผลไม้ทำให้คุณได้ทั้งวิตามิน เกลือแร่ แถมยังไม่รบกวนระบบเผาพลาญในร่างกายของคุณอีกและผลลัพธ์ของมันก็สามารถทำให้น้ำหนักและเนื้อส่วนเกินบางส่วนของคุณหายไปได้จริง ๆ ด้วย แต่ยังมีอีกข้อหนึ่งที่สำคัญมากและคุณอาจจะยังไม่รู้ก็คือ “ผลไม้ไม่มีโปรตีนและมันไม่ได้ช่วยเผาพลาญไขมันส่วนเกินของคุณ” เมื่อคุณลดน้ำหนักมาจนถึงตัวเลขที่น่าพอใจแล้วคุณก็กลับไปเจอกับอาหารแบบเดิม ๆ ที่มีไขมันอยู่ด้วยนั้นมันก็จะเข้าไปรวมทีมกับไขมันที่ไม่ได้รับการเผาพลาญจากครั้งก่อนนั่นทำให้สุดท้ายในร่างกายของคุณก็ยังคงมีไขมันส่วนเกินอยู่เหมือนเดิมแม้ว่าน้ำหนักของคุณจะลดลงและไขมันพวกนี้แหละที่สามารถทำร้ายร่างกายของคุณได้


แล้วถ้ามีไขมันเลวอยู่ในร่างกายของคุณเยอะมาก ๆ จะส่งผลอะไรให้คุณได้บ้างก็ขอยกตัวอย่างแบบสั้น ๆ ให้พอคิดออกกันว่าไขมันเลวพวกนี้สามารถทำร้ายส่วนต่างๆ ของร่างกายคุณได้ตั้งแต่หน้าท้อง แขน ตับ ลำไส้ ปอด สมอง หัวใจ โอเคเกริ่นมาแค่นี้คุณก็น่าจะพอเข้าใจแล้วว่าต่อให้คุณวิ่งสุดพลังแต่ลืมกินอาหารที่มีประโยชน์มุ่งแต่ดื่มน้ำผลไม้อย่างเดียวมันจะมีผลเสียตามมามากขนาดไหน

 

 

2. เลือกแต่อะไรที่เป็น Gluten-Free

นี่คือคำที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ของคนที่ลดน้ำหนักและถ้าคุณคือหนึ่งในคนที่เลือกกินแต่ของที่มีป้ายว่า Gluten-Free ทาง Metro Society ก็แอบอยากให้คุณลองอ่านข้อนี้ดูก่อนเพราะถ้าคุณเลือกที่จะอ่านแค่ตัวอักษรใหญ่ๆหน้า Package ของบรรดาของกินต่างๆว่านี่แหละ Gluten-Free แล้วก็หยิบไปจ่ายเงินและกินทันทีคุณอาจพลาดรายละเอียดสำคัญไปเพราะส่วนใหญ่แล้วผลิตภัณฑ์ Gluten-Free นั้นผู้ผลิตก็มักจะเพิ่มในส่วนที่เป็นไขมันเกลือหรือน้ำตาลลงไปเพื่อที่จะช่วยเติมเต็มรสชาติที่ขาดหายไปให้สมบูรณ์ขึ้นนั่นเองสุดท้ายแล้วมันก็มักจะมีปริมาณแคลอรี่ที่สูงอยู่พอตัวเลยทีเดียว

  

แทนที่คุณจะมุ่งค้นหาแต่สิ่งที่บอกว่าเป็น Gluten-Free คุณแค่ลองหันมากินคาร์โบไฮเดรตอย่างพวกขนมปังขาวและเรียกหาตัวช่วยลดน้ำหนักอย่างคีนัว, ผลไม้สดและพวกถั่ว นี่อาจจะเป็นอีกทางที่ช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้เหมาะสมคู่ไปกับการมีสุขภาพที่ดี

 

3. จะกินอะไรก็ขอ Fat Free ไว้ก่อน

ไม่มีไขมันก็ไม่อ้วนแล้ว…จริงๆแล้วมันก็แอบมีความถูกต้องรวมในความคิดนี้อยู่บ้างแต่ถ้าทุกอย่างที่คุณจะยอมกินเล่นต้องเป็น Fat Free เสียหมดขอให้คุณทิ้งความคิดนั้นไปซะเพราะความจริงแล้วอย่างที่เคยได้ยินกันว่ามันมีทั้งไขมันดีและไขมันเลวและไขมันดีก็คือสิ่งที่คุณคู่ควรหามาบำรุงร่างกายของคุณกัน

  

ลองเลือกไขมันดีเข้าตัวกันบ้างดีกว่าถ้าคิดไม่ออกว่ามันคืออะไรบ้าง MetroSociety ก็ขอไกด์คุณไว้นิดหน่อยแล้วกันว่าคุณลองกินเป็นอาหารที่มีน้ำมันมะกอกดูบ้าง ระหว่างวันก็หยิบถั่วอัลมอนด์มาเคี้ยวเพลิน ๆ หรือจะเป็นหอมหัวใหญ่ใส่กับอาหารตามไลฟ์สไตล์ของคุณกันได้ตามสบายเลย และอย่าลืมอะโวคาโดไปอีกอย่างด้วยเพิ่มความอร่อยด้วยการกินคู่น้ำผึ้งหรือเอาไปปั่นกับนมสดหรือโยเกิร์ตก็อร่อยไปอีกแบบ แล้วถ้าคุณคือสาวกแดนอาทิตย์อุทัยล่ะก็ลองจัดแซลม่อนหรือทูน่าซาซิมิมาทานก็เป็นตัวช่วยที่ดีในการเปิดรับไขมันดีเข้าร่างกายของคุณอีกแบบหนึ่ง

 

4. น้ำเย็นช่วยเร่งการเผาพลาญได้!

ทุกคนรู้กันดีว่าการดื่มน้ำอุณหภูมิห้องดีกับร่างกายมากที่สุดและก็ยังมีอีกทฤษฏีหนึ่งเหมือนกันที่บอกว่าการดื่มน้ำเย็นจัดจะสามารถช่วยเร่งให้ระบบเผาพลาญในร่างกายทำงานดีขึ้นได้ซึ่งเป็นความจริงทั้งคู่ไม่ผิดเลยแต่สำหรับทฤษฏีการดื่มน้ำเย็นจัดนั้นอาจจะจริงแต่ไม่ได้ให้ความคุ้นค่ากับร่างกายของคุณเท่าที่ควรเพราะกระบวนการที่ว่าช่วยให้ร่างกายของคุณเผาพลาญแคลอรี่ไปได้เพียง 8 แคลลอรี่เท่านั้นซึ่งมันก็แทบจะไม่ได้มีผลอะไรกับร่างกายของคุณเลยอีกด้วย

  

แต่ที่มีผลกับร่างกายของคุณแน่ๆ ก็คือการดื่มน้ำเย็นจัดนั้นส่งผลให้สมองของคุณมีความสามารถน้อยลง ระบบย่อยอาหารเองก็ทำงานได้ยากขึ้น แถมยังทำให้คุณเป็นร้อนในได้ง่าย ๆ และที่สำคัญมันจะทำให้คุณป่วยได้ง่ายขึ้นเพราะว่าร่างกายของคุณปรับอุณหภูมิตามไม่ทันนั่นเอง


ขอปิดท้ายว่าการดื่มน้ำคือสิ่งที่ดีและเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักที่ถูกต้องแต่คุณควรที่จะเลือกดื่มน้ำในอุณหภูมิห้องเท่านั้นและปริมาณของน้ำดื่มโดยเฉลี่ยที่เหมาะสมกับร่างกายของผู้ชายนั้นก็อยู่ที่วันละประมาณ 1.5 ลิตรนั่นเองและอย่าลืมว่าค่อยๆ ดื่มตลอดทั้งวันให้ได้ปริมาณนี้ไม่ใช่ดื่มรวดเดียวเลยเพราะนั่นก็ส่งผลเสียกับร่างกายของคุณได้ง่าย ๆ เช่นกัน…การเดินทางบนความพอดีนั่นแหละคือสิ่งที่เหมาะสมกับทุกอย่างมากที่สุด

 

5. ออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง

บางคนอาจจะไม่ได้มีเวลามากพอในแต่ละวันจึงทำให้ถ้าหาเวลาว่างได้ก็อยากจะโหมทุ่มเทไปกับการออกกำลังกายและเมื่อคุณออกกำลังกายเสร็จ…ความหิวก็มาเยือนเสียแล้วจนบางครั้งความหิวกับการห้ามใจมันก็ขัดแย้งกันเหลือเกินและในบางครั้งความหิวมันก็ดันชนะจนทำให้คุณอาจจะกินเยอะมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยนั่นเอง

  

ลองหันมาออกกำลังกายในเวลาที่ไม่นานเกินและไม่หนักเกินถามตัวเองถึงขีดจำกัดที่คุณจะไม่เสียพลังงานและหิวมากเกินไปรวมทั้งเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และครบหมวดหมู่ตามหลักการจะดีกว่าเพราะถ้าจะให้เข้าใจกันใหม่การเลือกทานอาหารที่ถูกต้องมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้มากกว่าการออกกำลังกายเสียอีก

 

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วมีข้อไหนที่คุณกำลังทำกันอยู่ก็ขอแนะนำให้หยุดกันไปเลยจะดีกว่าเพราะสิ่งเหล่านี้ทำไปนาน ๆ อาจจะสะสมและส่งผลเสียให้ร่างกายคุณได้ไม่น้อยเลยทีเดียวแม้ว่ามันจะเรียกว่าการลดน้ำหนักก็จริงแต่หากคุณหักโหมไปจนเกินพอดีร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่ควรได้แถมยังถูกใช้งานจนมากเกินไปอาจจะส่งผลให้ทั้งระบบหลัก ๆ อย่างตับและไตทำงานหนักและพ่วงไปถึงกระดูกและกล้ามเนื้อต่าง ๆ ก็ไม่แข็งแรงเท่าที่ควรด้วย…มา “ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ” กันดีกว่า