คุณกำลังเจอโรคสมาธิสั้นเล่นงานหรือเปล่า

BY Poy T.

  • 09 มีนาคม 2563
  • 5,562

โรคสมาธิสั้นฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นปัญหาของเด็ก ๆ แต่ความจริงแล้ววัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ก็เจอกับโรคนี้กันได้ทั้งนั้นซึ่งถ้าคุณกำลังสงสัยว่าคุณเองเข้าข่ายหรือเป็นโรคนี้อยู่ไหมเราก็คิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณจะลองมาสังเกตตัวเองกันให้ละเอียดขึ้นไปพร้อมกัน

 

มาดูสัญญาณเตือนหลัก ของอาการนี้กันก่อน


- คุณจัดการอะไรได้ไม่ดีเท่าไร

ทั้งในเรื่องของเวลา การลำดับความสำคัญ รวมทั้งการโฟกัสกับสิ่งที่กำลังทำ มีอะไรเขามากวนคุณก็สติหลุดได้ง่าย ๆ มองไปทางไหนดูแล้วข้าวของ เอกสาร รวมไปทั้งการใช้ชีวิตของคุณก็ไม่มีระเบียบเอาเสียเลย แถมคุณยังผัดวันประกันพรุ่ง ไปสายเป็นประจำ และถึงจะรู้ตัวแต่ทำอย่างไรมันก็แก้ไม่หายเสียทีนิสัยทั้งหลายเหล่านี้

 

- อารมณ์ของคุณมันเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย
ความยุ่งเหยิงในข้อที่ผ่านมาส่งผลมายุ่งเหยิงต่อในอารมณ์ของคุณ ถ้าจะนิยามประโยคที่ว่า “3 นาที 4 อารมณ์” อาจจะเหมาะกับคุณไม่น้อย เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวบูด หงุดหงิดแสนง่าย แต่อยู่ ๆ ก็ใจเย็นขึ้นมาได้เสียอย่างนั้น และส่วนใหญ่การตัดสินใจของคุณมันก็ดูจะผิดที่ผิดทางไปเสียหมด 

 

 

- ขี้ลืมคือสิ่งที่คุณต้องบ่นตัวเองอยู่เสมอ
นี่อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายคนแต่แน่นอนว่าถ้าคุณเป็นโรคสมาธิสั้นอาการนี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเพื่อนซี้ของคุณเลยก็ว่าได้ กุญแจห้องอยู่ไหนบางครั้งยืนหาเป็น 10 นาทีวิ่งลงมาดูที่รถก็แล้วแต่ปรากฏว่าอยู่ในกระเป๋ากางเกง นัดเล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็ดันถูกหลงลืมไปเสียง่าย ๆ ไม่ไหวแน่ถ้าคุณยังไม่ยอมลุกขึ้นสู้กับมัน

 

 

- คุณไม่ได้มองตัวเองดีมากเท่าไร
เรื่องของการให้คุณค่ากับตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่ทำไมนะคุณไม่ได้รู้สึกเห็นค่าหรือชื่นชมอะไรในตัวเองเลย เพราะทำอะไรก็ดูจะพังดูไม่เวิร์คไปเสียหมด แต่ถ้าคุณเปิดใจแล้วค้นพบว่าตัวเองเป็นสมาธิสั้นเราเชื่อว่าคุณจะเริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้นรวมทั้งพร้อมลุกขึ้นมาแก้ไขและได้พบเจอกับคุณค่าในตัวเองได้ในที่สุด

 

แล้วถ้าอยากเริ่มแก้ไขคุณควรเริ่มอย่างไร?

- ปรึกษาแพทย์
นี่น่าจะเป็นวิธีพื้นฐานที่สุดและเราไม่อยากให้คุณเลี่ยงที่จะไปพบซึ่งแน่นอนว่าจิตแพทย์คือแพทย์ที่คุณต้องพุ่งตรงไปหา อย่ากดดันตัวเอง การไปพบจิตแพทย์มันก็เหมือนคุณไม่สบายเพียงแต่มันเปลี่ยนมาไม่สบายที่จิตใจแทนที่จะปวดเนื้อเมื่อยตัวเหมือนอย่างเคยก็เท่านั้นเอง

- เริ่มกระบวนการพฤติกรรมบำบัด
บางครั้งการต้องทานยาเพื่อรักษาอาการอาจส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณได้ดังนั้นการหันมาพึ่งพฤติกรรมบำบัดอาจช่วยคุณได้ดีกว่า
พยายามพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นบวก พยายามฟังคำแนะนำในเรื่องของพฤติกรรมเชิงบวกแล้วเอามาปรับใช้ ไม่ต้องกดดันตัวเองค่อย ๆ เป็นและค่อย ๆ ไปคุณแค่กำลังเดินทางไปเพื่อพบเจอตัวคุณเองในอีกฝั่งก็เท่านั้น หารางวัลให้ตัวเองเมื่อทำสำเร็จเพราะเราเชื่อว่าคุณรู้ใจตัวเองมากที่สุดว่าต้องการอะไร

 

 

- ปรับด้วยทัศนคติภายใน
ถึงเวลาที่คุณต้องกล้าลุกขึ้นสู้กับนิสัยที่เข้าข่ายอาการสมาธิสั้นกันแล้ว อย่างเช่น ความรกรุงรังของห้องนอน นิสัยชอบผัดวันประกันพุ่ง ความใจร้อน รวมทั้งการโทษแต่ตัวเองตลอดเวลา ค่อย ๆ เขียนมันออกมา ยอมรับตัวเองอย่างซื่อสัตย์ ค่อย ๆ ปรับอย่างใจเย็น แม้ว่ามันจะยากแต่เราเชื่อว่ามันไม่ยากเกินกว่าที่คุณจะเอาชนะมันอย่างแน่นอน

 

เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะต้องพบเจอกับผลกระทบของโรคสมาธิสั้นในวัยผู้ใหญ่กันอยู่ไม่น้อยค่อย ๆ เปิดใจให้กับตัวเองนะคะแล้วคุณจะผ่านมันไปได้มันเป็นเพียงก้าวหนึ่งเพื่อให้คุณเดินทางไปค้นพบกับความสุขที่มากกว่าเพราะเมื่อคุณทำสำเร็จคุณจะรักและเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นเป็นกองอย่างแน่นอน