LOEWE Crafted World
- 03 เมษายน 2567
- 9,648
นิทรรศการ Crafted World ของ โลเอเว่ (LOEWE) เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ณ Shanghai Exhibition Centre โดยจัดแสดงขึ้นเพื่อเชิดชูประวัติศาสตร์อันยาวนานของ โลเอเว่ ความเป็นแบรนด์สัญชาติสเปน และงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์
Crafted World เป็นนิทรรศการสาธารณะครั้งแรกของ โลเอเว่ ที่พาผู้ชมร่วมเดินทางผ่านการจัดงานในรูปแบบอินเตอร์แอ็กทีฟ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ลองสัมผัสกับประสบการณ์การข้ามกาลเวลา พื้นที่ สิ่งของ และงานฝีมือที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และความสนุกสนานอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ นิทรรศการครั้งนี้รังสรรค์โดย โจนาธาน แอนเดอร์สัน (Jonathan Anderson) ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ โลเอเว่ เพื่อเชิดชูช่างฝีมือทั่วโลกที่อุทิศตนเองให้กับศิลปะ โดยเปิดให้ผู้เข้าชมได้ดื่มด่ำกับการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ และความร่วมมือทางวัฒนธรรม ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงการเติบโตของ โลเอเว่ นับตั้งแต่ต้นกำเนิดในฐานะผู้ผลิตเครื่องหนังใน กรุง มาดริด (Madrid) ปี 1846 จนถึงปัจจุบัน ในฐานะหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นชั้นนำของโลก
นิทรรศการแห่งนี้ได้รวบรวมประวัติศาสตร์อันเลื่องชื่อกว่า 178 ปี ของแบรนด์ในด้านความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และงานฝีมืออันประณีตของ โลเอเว่ เริ่มต้นจากต้นกำเนิดของแบรนด์ในศตวรรษที่ 19 ที่แบรนด์ได้รับพระราชทานแต่งตั้งให้เป็นผู้ผลิต และจัดส่งสินค้าประจำราชวงศ์สเปน ในศตวรรษที่ 20 ที่แบรนด์ถูกเข้าซื้อกิจการโดย LVMH ในช่วงศตวรรษที่ 21 ที่มีการเปิดร้านแห่งแรกในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน จวบจนถึงยุคฟื้นฟูภายใต้การดูแลของ โจนาธาน แอนเดอร์สัน ดังนั้นนิทรรศการครั้งนี้ ถือเป็นการเฉลิมฉลองในงานฝีมือ และเทคนิคทางศิลปะที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่น ซึ่งได้รับการสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องจากมูลนิธิ โลเอเว่ ด้วยกิจกรรมประจำปีอย่าง LOEWE Foundation Craft Prize และความร่วมมือระหว่างแบรนด์ และช่างฝีมือทั่วโลก
นอกจากการนิทรรศการครั้งนี้จะพาผู้ชมดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์ของ โลเอเว่ แล้ว นิทรรศการยังได้เปิดประสบการณ์พาผู้ชมดื่มด่ำไปพบกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของสเปน โดยนำเสนอให้เห็นถึงเบื้องหลังการทำงานในสตูดิโอและกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน นิทรรศการครั้งนี้ได้สร้างสรรค์ประสบการณ์บนรันเวย์อีกครั้ง โดยห้องจัดแสดงที่ตกแต่งไปด้วยคอลเล็คชั่นต่างๆ ของ โจนาธาน แอนเดอร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ พร้อมการนำเสนอการพัฒนาด้านมัลติมีเดียของแบรนด์ ในด้านการสนับสนุนงานฝีมือทั่วโลก นอกเหนือจากนี้ประสบการณ์ต่างๆ ยังถูกนำเสนอในห้องแบบอินเทอร์แอคทีฟจำนวน 9 ห้อง ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความร่วมมือต่างๆ ของ โลเอเว่ ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
The Atelier
คอนเซ็ปต์ The Atelier จะพาเราเดินทางอีกครั้งผ่านเบื้องหลังอันซับซ้อน โดยนำผู้ชมผ่านกระบวนการอันพิถีพิถันในการผลิตกระเป๋าอันเป็นเอกลักษณ์ของ LOEWE เริ่มจากการตัด ลงสี และประกอบเครื่องหนัง ธีม The Atelier จัดแสดงเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดที่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสร้างต้นแบบและการทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่ากระเป๋าแต่ละใบทนทาน และสามารถอยู่ได้หลายชั่วอายุคน ธีม The Atelier นี้ปิดท้ายด้วยการแสดงกระเป๋า Howl’s Moving Castle ในความสูง 2 เมตรซึ่งสร้างขึ้นพิเศษสำหรับนิทรรศการ โดยมีองค์ประกอบปราสาทอันเป็นเอกลักษณ์จาก Studio Ghibli ในปี 2004 พร้อมองค์ประกอบอื่นๆ จากกระเป๋าอันเป็นเอกลักษณ์ของ LOEWE อีกด้วย
Fashion Without Limits
ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ใช้ชื่อว่า Fashion Without Limits ได้นำผู้ชมดื่มด่ำกับความคิดสร้างสรรค์ระดับแนวหน้า ผ่านรูปแบบประติมากรรม และศิลปะ 3 มิติ ของคอลเลกชันรันเวย์ของ โจนาธาน แอนเดอร์สัน สำหรับ LOEWE นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ในปี 2013 โดยธีมนี้มี 69 ลุคจากสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรีจากคอลเล็คชั่น LOEWE นำเสนอบนหุ่นวางสลับกับงานศิลปะเพื่อเน้นซิลูเอทให้โดดเด่นกว่าเดิม โดยภายในห้องจัดแสดงเดียวกัน เราจะได้เห็นประติมากรรม "Idol" ของ William Turnbull (1956) โมบายสิ่งทอของ Haegue Yang "The Intermediate – Dangling Hairy Hug" (2018) และเครื่องปั้นดินเผาเคลือบเงาของ Zizipho Poswa "Mireille Kamyanya, Congo" (2022) นอกจากนั้นในงานยังมีป้ายหน้าจอดิจิทัล 3 ชิ้นแนวตั้งที่ฉายวีดีโอบนรันเวย์ให้แก่ผู้ชมเสมือนกับการชมนางแบบที่เดินแบบในพื้นที่การแสดงจริง
United in Craft
คอนเซ็ปต์ United in Craft เฉลิมฉลองความสุขของการสร้างสรรค์ และแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนระดับโลกของ LOEWE ในด้านงานฝีมือ คอนเซ็ปต์นี้จัดแสดงผลงานจาก LOEWE FOUNDATION Craft Prize ประจำปี พร้อมวีดีโอบรรยาย นอกจากนี้ยังนำเสนอเซรามิกเคลือบสมัยราชวงศ์หมิง และชิงซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคอลเล็คชั่น Chinese Monochrome ในปี 2023 และโปรเจคต่างๆ เช่น พรมทอ ตะกร้า สาน เก้าอี้ และ เครื่องคั่วเกาลัด จากงานแสดงเฟอร์นิเจอร์ Salone del Mobile ที่เป็นความร่วมมือของ LOEWE และช่างพรมชาวเอกวาดอร์ ช่างทำริบบิ้นชาวอินเดีย ช่างทำตะกร้าชาวแอฟริกาใต้ และช่างทอไม้ไผ่ชาวจีน การจัดแสดงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่ออนาคตที่ยั่งยืน เช่น กระเป๋าลูกปัดรูปช้างจากองค์กรการกุศล Knot on My Planet ซึ่งผลิตโดยช่างฝีมือชาวเคนยา และแทนซาเนีย นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงตะกร้าที่ได้รับการซ่อมแซมจากนิทรรศการ Salone del Mobile ปี 2022 ภายใต้ชื่อโปรเจค Weave, Restore และ Renew
Crafted World เป็นผลงานการออกแบบร่วมกับบริษัทสถาปนิกที่มีชื่อเสียงระดับโลกในศตวรรษที่ 21 อย่าง OMA โดยภายในสถานที่จัดงาน มีพื้นที่กว่า 1,600 ตารางเมตร ลานภายในของ Shanghai Exhibition Centre ได้จัดแสดงศิลปะ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย และน่าสนใจตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมหนังขนาดใหญ่พิเศษ ไปจนถึงอุโมงค์จัดแสดงวิธีพูด “LO-EV-EH” ผลงานในนิทรรศการนี้เต็มไปด้วยองค์ประกอบเชิงอินเทอร์แอคทีฟมากมาย เช่น นิทรรศการสูงระดับเข่าเพื่อให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วม และสวนดอกไม้เคลื่อนไหวภายในโถงกระจกที่ไม่มีที่สิ้นสุด นิทรรศการนี้ได้รับการคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน รวบรวมคอนเซ็ปต์ชัดเจน 6 คอนเซ็ปต์ซึ่งจัดแสดงแตกต่างกันไปเพื่อเน้นย้ำถึงแนวทางของแบรนด์ในด้านแฟชั่น และงานฝีมือ
Born from the Hand
คอนเซ็ปต์ Born from the Hand บอกเล่าเรื่องราวการเติบโตของ โลเอเว่ จากกลุ่มผู้ผลิตเครื่องหนังในปี 1846 สู่แบรนด์อันมีเอกลักษณ์สมัยใหม่โดยนำเสนอผ่านสินค้าชิ้นไอคอนิค เช่น เครื่องหนังสั่งทำในยุคแรกๆ และกระเป๋ารุ่นไอคอนอย่าง อมาโซน่า (Amazona), ฟลาเมงโก้ (Flamenco) และ Puzzle ในเวอร์ชั่นแรก ควบคู่ไปกับแบบจำลองทางสถาปัตยกรรม ภาพถ่ายในคลัง สื่อโฆษณา และงานอันโดดเด่นของ Pablo Picasso และ Pedro Almodóvar ซึ่งงานแสดงได้สะท้อนถึงจิตวิญญาณในแต่ละยุคสมัย โดยนิทรรศการยังมีการจัดแสดงผลงานล่าสุดที่ร่วมมือกับ Anthea Hamilton รวมถึงเครื่องแต่งกายที่ออกแบบมาสำหรับ Rihanna และ Beyoncé
Welcome to Spain
คอนเซ็ปต์ Welcome to Spain มอบประสบการณ์อย่างเต็มรูปแบบผ่านสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศบ้านเกิดของ LOEWE ฉากหลังของห้องนี้ตกแต่งไปด้วยภาพถ่ายและวิดีโอแคมเปญของ Steven Meisel Tyler Mitchell และ Grey Sorrenti ควบคู่ไปกับประติมากรรม Olympic Park เสมือนจริงในบาร์เซโลนาที่มีแสงระยิบระยับสีฟ้าจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และพระราชวัง Andalucian ที่ประดับด้วยกระเบื้องที่ได้แรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมมัวร์ ธีมนี้ยังได้นำเสนองานฝีมือของประเทศสเปนที่เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจหลัก อย่างกระเป๋าทรงตะกร้า และบัคเก็ต ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยความร่วมมือกับช่างฝีมือชาวสเปน ซึ่งจัดแสดงควบคู่ไปกับชาม lebrillo ที่เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ ผลงานเซรามิกของ Pablo Picasso และเครื่องประดับสัตว์ทะเลจากคอลเลคชัน Paula's Ibiza อันมีชีวิตชีวาของ โลเอเว่
Unexpected Dialogues
คอนเซ็ปต์ Unexpected Dialogues ถูกนำเสนอผ่าน 9 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะพาผู้ชมเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการที่มีอิทธิพลต่อแบรนด์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คอนเซ็ปต์นี้ประกอบด้วยสตูดิโอจำลองของช่างปั้นหม้อ Ken Price ในนิวเม็กซิโก ฉากเทพนิยายที่ซ่อนอยู่ตามกำแพงโดยนักเซรามิกชาวญี่ปุ่น ซูนะ ฟูจิตะ (Suna Fujita) พรมทอจากพื้นจรดเพดานโดย John Allen งานแกะสลักหยกควบคู่ไปกับคอลเลกชั่นตรุษจีนล่าสุดของ LOEWE ภาพคอลลาจโดย Joe Brainard ไปจนถึง Studio Ghibli องค์ประกอบเหล่านี้ถูกนำมาผสมผสานกันเพื่อให้ผู้เข้าชมได้ชื่นชมศิลปะและงานฝีมือที่หลากหลายและน่าหลงใหลภายในนิทรรศการ นอกจากนี้นิทรรศการยังอุทิศห้อง 3 ห้องให้กับปรมาจารย์แห่งขบวนการศิลปะและหัตถกรรมของอังกฤษในศตวรรษที่ 19 ได้แก่ วอลเปเปอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ William Morris ซึ่งได้รับการฉายแบบเคลื่อนไหวได้ กระเบื้องประดับห้องที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของ William De Morgan และสวนแขวนภายในห้องโถงกระจกเพื่อแสดงความเคารพต่อการออกแบบของ C.F.A. Voysey.
หลังจากชมนิทรรศการเสร็จแล้ว ผู้เข้าชมจะเดินทางผ่านร้านขายของที่ระลึกที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ตามด้วยลานที่ประดับด้วยเสื้อกันฝนลายกาลิเซียทอจากพืชจำพวกอ้อ ฟาง และไม้บราย โดย Alvaro Leiro ภายในร้านขายของที่ระลึก ผู้ชมจะได้พบกับผลิตภัณฑ์สุดพิเศษ และหนังสือ Crafted World ของ LOEWE ที่จะทำให้ผู้อ่านยังคงดำดิ่งในโลกของ LOEWE แม้ว่าพวกเขาจะออกจากนิทรรศการแล้วก็ตาม โดยนิทรรศการครั้งนี้จะเริ่มจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 5 พฤษภาคม 2024 ก่อนเดินทางไปจัดแสดงทั่วโลก พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
LOEWE & CULTURE
วัฒนธรรมถือเป็นดีเอ็นเอของ โลเอเว่ ซึ่งเห็นได้จากความมุ่งมั่นที่มีมายาวนานสู่การสร้างสรรค์ในทุกรูปแบบ ดีไซน์ และงานฝีมือของ โลเอเว่ ได้สะท้อนถึงความเชื่อมโยงของแฟชั่นกับความศิลปะร่วมสมัยซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของ โจนาธาน แอเดอร์สัน นับตั้งแต่ปี 2013 ที่ แอนเดอร์สัน ได้รับการแต่งตั้งในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ โลเอเว่ ได้เริ่มโปรเจคคอลแลปส์กับศิลปิน และช่างฝีมือทำให้เกิดการตีความใหม่ และขยายคุณค่าของแบรนด์ นอกเหนือจากการจัดแสดงแง่มุมต่างๆ ของ LOEWE แล้ว โปรเจคทางวัฒนธรรมเหล่านี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญต่างๆ และเอกลักษณ์ในแบบฉบับของ LOEWE ตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเป็นกลุ่มผู้ผลิตเครื่องหนังในปี 1846